- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
วรรคทองทำพัง
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
กรณีแหวนเพชร นาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” ยังต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการหลังส่งคำชี้แจงกับป.ป.ช. แต่สิ่งที่สังคมน่าจะได้ข้อสรุปไปแล้วคือท่าทีของ “บิ๊กตู่” ต่อการปราบโกง ทั้งนี้เนื่องจากคำพูดต่างกรรมต่างวาระเกี่ยวกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันกำลังถูกตั้งคำถาม แม้ยังไม่มีใครรู้ว่าประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นนี้จะได้ข้อสรุปอย่างไร และ “บิ๊กป้อม” จะชี้แจงที่มาที่ไปของนาฬิกาและแหวนเพชรอย่างไร แต่ท่าทีต่อปมร้อนของ “บิ๊กป้อม” จะไม่ใช่ออกมาปกป้องเต็มตัว แต่วรรคทองที่ว่า “ให้ลดราวาศอกกันบ้าง” ได้ลดทอนท่าทีอันขึงขังจริงจังที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้แทบหมดสิ้น
กรณีแหวนเพชร นาฬิกาหรู ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีข่าวว่าจะส่งหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันอังคารที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า “บิ๊กป้อม” ยังไม่ได้ส่งคำชี้แจงตามที่มีกระแสข่าว แต่ยังมีเวลาให้ทำคำชี้แจงเพราะ ป.ป.ช.กำหนดเวลาไว้ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา
ยังไม่มีใครรู้ว่าประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นนี้จะได้ข้อสรุปอย่างไร และ “บิ๊กป้อม” จะชี้แจงที่มาที่ไปของนาฬิกาและแหวนเพชรอย่างไร แต่ดูเหมือนเรื่องจะจบไม่ง่ายเพราะมีคนนำภาพถ่าย “บิ๊กป้อม” ใส่นาฬิกาหลายเรือนเมื่อครั้งออกงานต่างๆมาตั้งเป็นคำถามว่านอกจาก Richard Mille ที่เป็นประเด็นร้อนในตอนนี้แล้วเรือนอื่น ยี่ห้ออื่นที่ใส่ออกงานต่างๆได้แจ้งบัญชีต่อ ป.ป.ช.หรือไม่
ในส่วนของ “บิ๊กป้อม” คงต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการแต่ที่ไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการแต่สังคมน่าจะได้ข้อสรุปไปแล้วคือท่าทีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อความจริงจังในเรื่องปราบโกงที่ยกให้เป็นวาระแห่งชาติหลังยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศ
ทั้งนี้เนื่องจากคำพูดต่างกรรมต่างวาระเกี่ยวกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันของนายกรัฐมนตรีกำลังถูกตั้งคำถามว่าจริงจังกับสิ่งที่พูดมากน้อยแค่ไหน อย่างไร เพราะดูเหมือนจะมีความต่างที่ย้อนแย้งกันอยู่ในหลายกรรมหลายวาระที่พูด
“ขอบคุณในความไว้วางใจที่ให้กับผม ส่วนคนอื่นนั้น ได้กำชับไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำงานอยู่รอบข้าง ทั้งรัฐมนตรี ผู้ที่เกี่ยวข้อง … ส่วนการแอบอ้างจะต้องไปดูว่า มีการแอบอ้างอย่างไร โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับรองนายกฯและรัฐมนตรีด้วย หากพบการแอบอ้างก็ขอให้ช่วยกันบอกแจ้งเตือนมาที่รัฐบาล …ส่วนเรื่องเล็กๆน้อยๆในระดับล่างเช่นในท้องถิ่นก็ต้องไปดูว่าทุจริตกันตรงไหน ผมจะสอบให้หมดแต่อย่าพูดแบบลอยไป ลอยมา โดยไม่มีหลักฐานมาบอกผมซิครับ จะปลด ย้าย ติดคุก ผมทำให้ได้หมด แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าไม่มีมูลแล้วพูดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา และรัฐบาลก่อน มีเรื่องพวกนี้น้อยกว่านี้หรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ก็ชอบพูดกันนัก”
“บิ๊กตู่” ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา (ที่มา:http://www.naewna.com/politic/308419)
“ผมไม่ต้องให้กำลังใจอะไร ท่านเข้มแข็งพอ พล.อ.ประวิตร เป็นทหาร สามารถดูแลตัวเองได้ เราไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว ขอร้องสื่อให้ลดราวาศอกกันบ้าง กฎหมายว่าอย่างไรก็ไปว่ากันตามขั้นตอน อย่าไปมองในทางที่แย่ทั้งหมด ไปดูข้อกฎหมายก่อน…ใช่ เพราะสื่อและหลายคนก็จ้องอยู่เช่นกัน เขาต้องการตีให้แตกออกจากผมก็รู้อยู่ … ผมเองก็แข็งแรงเยอะ ถ้ายิ่งไม่มีคนอยู่ด้วยก็จะยิ่งดุกว่าเดิม จะใช้อำนาจอย่างเต็มที่”
“บิ๊กตู่” ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลกรณีปมแหวนเพชร นาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” (ที่มา:http://www.naewna.com/politic/308412)
ประโยคขีดเส้นใต้
“…ผมจะสอบให้หมดแต่อย่าพูดแบบลอยไป ลอยมา โดยไม่มีหลักฐานมาบอกผมซิครับ จะปลด ย้าย ติดคุก ผมทำให้ได้หมด…”
“…ขอร้องสื่อให้ลดราวาศอกกันบ้าง กฎหมายว่าอย่างไรก็ไปว่ากันตามขั้นตอน อย่าไปมองในทางที่แย่ทั้งหมด ไปดูข้อกฎหมายก่อน…”
นี่เป็นการพูดวันเดียวกันสถานที่เดียวกัน ไม่นับรวมที่พูดไว้ในสถานที่อื่นต่างกรรมต่างวาระ แม้จะมี Keyword เหมือนกันตรงที่ว่ายึดหลักกฏหมาย ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แต่กรณี “บิ๊กป้อม” ก็มีความชัดเจนทั้งหลักฐานคือนาฬิกาและแหวนที่สวมใส่ และข้อกฎหมายคือไม่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช.
แม้จะยังมีช่องให้ชี้แจงเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายอยู่บ้างแต่ประโยคที่ว่า “ให้ลดราวาศอกกันบ้าง” ก็ทำให้เห็นความย้อนแย้งกับประโยคที่ว่า “บอกผมซิครับ จะปลด ย้าย ติดคุก ผมทำให้ได้หมด”
“ลดราวาศอก… วลีนี้มีความหมาย…ซวดเซเต็มที… วลีนี้เห็นภาพอาการ…” นี่คือสิ่งที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี มองเห็นจากความย้อนแย้ง
You must be logged in to post a comment Login