วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘อีอีซี’ซี้ซั้วและซี้แหงๆ / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

On December 14, 2017

คอลัมน์ : โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

ฉบับนี้ผมขอติงโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ไม่ใช่ว่าผมไม่รักชาตินะครับ ผมลูกจีนแต่รักแผ่นดินเกิดคือเมืองไทยครับ ผมจำเป็นต้องติงโครงการ “ซี้ซั้ว” นี้ในทำนอง “ติเพื่อก่อ” เพื่อจะได้ไม่หลงวาดฝันหวานจนพากันลงเหวนั่นเอง

โครงการ EEC ผมขอเขียนเป็นภาษาไทยว่า “อีอีซี” เพื่อให้ง่ายและสั้นลง โครงการนี้ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ก่อนหน้านี้ผมเคยวิพากษ์ไว้บ้างแล้ว แต่ครั้งนี้จะมองในมุมเพิ่มเติมที่ไม่ซ้ำกัน โดยใช้แผนที่ที่ทางราชการใช้อธิบายหรือ “โฆษณาชวนเชื่อ” โดยตรง

จากแผนที่ระบุว่าจะสร้างเมืองใหม่ฉะเชิงเทรา พัทยา และระยอง การสร้างเมืองใหม่เป็นการแก้ปัญหาความยุ่งยากของเมืองเก่าด้วยการ (หนีปัญหา) ไปสร้างเมืองใหม่ แต่ในความเป็นจริงในโลกนี้ไม่เคยมีการสร้างเมืองใหม่สำเร็จ ยกเว้นเมืองเก่าถูกทำลายลง เช่น อยุธยา หรือเปลี่ยนราชวงศ์ เป็นต้น ยิ่งเป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจยิ่งย้ายไม่ได้ เช่น นครนิวยอร์กกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นครซิดนีย์กับกรุงแคนเบอร์รา และนครย่างกุ้งกับเมืองเนปิดอว์ เป็นต้น

มีใครเคยเห็นอังกฤษคิดสร้างกรุงลอนดอนใหม่หรือไม่ ฝรั่งเศสก็ไม่มีโครงการสร้างกรุงปารีสใหม่ อิตาลีก็ไม่เคยมีกรุงโรมใหม่ในหัวเลย เมืองที่เขาอยู่กันมาเป็นพันๆปีไม่เคยคิดจะย้ายหนีปัญหา กรุงอัมสเตอร์ดัมที่อยู่ใต้ระดับน้ำทะเลก็ยังอยู่ได้สบายๆ

แต่นักวางแผนไทยกลับมีแนวคิดแบบยอมจำนน เขาไม่ตระหนักว่าขืนสร้างเมืองใหม่ไปก็ร้าง แก้ปัญหาเมืองเก่าไม่ได้ แถมยังถมงบประมาณไปสร้างเมืองใหม่อย่างไร้ค่าอีก น่าสมเพชไหมล่ะครับ

หันมาดูเส้นทางรถไฟสายอนาถที่ต้องผ่านไปยังจังหวัดฉะเชิงเทราแล้วยิ่งหดหู่ เราจะเชื่อมกรุงเทพฯและปริมณฑลกับภาคตะวันออก โดยเฉพาะชลบุรีและระยอง แต่ผ่าไปอ้อมฉะเชิงเทราให้เมื่อยตุ้มเล่นซะงั้น

ถ้าคิดอย่างมีบูรณาการต้องทำทางด่วนและรถไฟจากระยอง พัทยา แล้วทะลุจากตัวเมืองชลบุรี ผ่าทะเลแถวปากน้ำบางปะกงมาขึ้นฝั่ง แล้วเชื่อมกับบางนา-ตราดตรง กม.36 ที่สามารถเชื่อมต่อถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่อยู่แล้ว แบบนี้ต่างหากที่ทำให้การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพสูงสุด

มาดูที่ตั้งของ Robotics หรือแหล่งผลิตหุ่นยนต์ที่ตั้งของ Smart Electronics ที่ตั้งของ Modern Automotive หรือแหล่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและอื่นๆ ก็เหมือนเอามาแปะส่งเดชไว้ให้ดูทั่วๆในแผนที่หรืออาจตามแปลงที่ดินที่เอกชนเสนอ แต่ไม่รู้จะได้ทำจริงหรือไม่ แทนที่จะวางไว้เปะปะสับสนอยู่กลางทุ่งรุกพื้นที่เกษตรกรรม กิจการแบบนี้เอามาไว้ใกล้ๆกรุงเทพฯก็ได้ เพราะแรงงานมีฝีมือก็มาก ไม่เห็นจำเป็นต้องทุ่มทำโครงการอีอีซีด้วยงบประมาณมหาศาลซึ่งยังไม่รู้จะได้คุ้มเสียหรือไม่

ที่ตลกร้ายก็คือ Logistics Hub หรือศูนย์ขนถ่ายสินค้า ดันแอบไปอยู่ฉะเชิงเทรา ห่างจากย่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเลผ่านท่าเรือ 3 แห่งคือ แหลมฉบัง สัตหีบ และมาบตาพุด และห่างสนามบินอู่ตะเภา สงสัยว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือเอกชนรายใดมีที่ดินแถวนั้นหรืออย่างไร หลายคนคงงง เหมือนที่ผมซึ่งจบปริญญาเอกด้านการวางแผนพัฒนาเมืองมายังงง สิ่งที่รัฐทำควรมีเหตุมีผลมากกว่านี้ และควรแจกแจงข้อมูลอย่างโปร่งใสจึงจะดี

ส่วนศูนย์เทคโนโลยีทางการเกษตรและศูนย์แปรรูปอาหารที่แปะไว้รวม 4 จุดนั้น ก็ไม่ทราบว่าแปะเพื่อเติมเต็มแผนที่ไม่ให้ว่างกลวงโบ๋หรืออย่างไร ศูนย์แบบนี้ควรมีที่จันทบุรีหรือจังหวัดหลักๆด้านการเกษตรทั่วประเทศด้วยซ้ำไป

ผมก็ได้แต่ภาวนาให้ระเบียงเศรษฐกิจที่จับทุกภาคส่วนมายำรวมกันจะประสบความสำเร็จในที่สุด แม้ว่าโครงการนี้จะดูเป็นแบบมาม่า ยำยำ และไวไว (เน้นแบบ top-down ปนเปและเอาเร็วเข้าว่า)

ดังนั้น ผมจึงเป็นห่วงโครงการระเบียงเศรษฐกิจนี้ ใครขืนบ้าจี้ทุ่มลงทุนโดยไม่ศึกษาให้ดี หวังว่าราคาบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จะพุ่งกระฉูดเหมือนสมัย “น้าชาติ” เมื่อ 30 ปีก่อน อาจผิดหวัง อาจประสบเภทภัยมากกว่าวาสนาได้ ผมก็ได้แต่หวังให้ทางราชการปรับปรุงแผนแม่บทโครงการนี้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนในอีอีซี!


You must be logged in to post a comment Login