วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โสมแดงนิ่งเทียบเชิญ‘ทิลเลอร์สัน’

On December 15, 2017

เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างความประหลาดใจด้วยการเสนอเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขกับเกาหลีเหนือ แม้จนถึงขณะนี้ทางการเกาหลีเหนือยังไม่ได้ให้คำตอบ และไม่แน่ใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สนับสนุนแนวทางของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐหรือไม่

ทำเนียบขาวสหรัฐยังไม่มีแถลงการณ์ตามคำกล่าวของนายทิลเลอร์สัน ซึ่งมีขึ้นภายหลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถยิงไกลได้ถึงสหรัฐ ส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า อาจต้องใช้กำลังทหาร หากมีความจำเป็น ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยตั้งเงื่อนไขไว้ว่า เกาหลีเหนือจะต้องยอมล้มเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก่อนถึงจะเจรจากันได้ แต่ล่าสุดนายทิลเลอร์สันกล่าวว่า สหรัฐพร้อมเริ่มเจรจาได้ทุกเมื่อกับเกาหลีเหนือ โดยไม่มีเงื่อนไข

สำหรับความคืบหน้าเรื่องที่ทางโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศรับรองกรุงเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงอิสราเอล นั้นล่าสุดที่ประชุมองค์กรความร่วมมือกลุ่มชาติอิสลาม หรือ โอไอซี เรียกร้องประชาคมโลกให้ยอมรับนครเยรูซาเลมตะวันออก เป็นเมืองหลวงปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอล ยึดครอง

การประชุมฉุกเฉินเหล่าผู้นำชาติสมาชิกกลุ่มโอไอซี 57 ประเทศ ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ต่างเห็นพ้องเรียกร้องถึงประชาคมโลก ให้ยอมรับพื้นที่นครเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงปาเลสไตน์ ที่ถูกอิสราเอลผนวกยึดครอง นอกจากนั้น เหล่าผู้นำชาติมุสลิมต่างประกาศถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่ยอมรับนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล ถือเป็นโมฆะ ทั้งระบุเรียกร้องถึงรัฐบาลวอชิงตัน ให้ถอนตัวจากบทบาทใดๆ ในกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง

ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ กล่าวสุนทรพจน์ระบุ รับไม่ได้ ที่สหรัฐเป็นคนกลางการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลาง เพราะสหรัฐเต็มไปด้วยความเอนเอียง เข้าข้างอิสราเอล และต้องการให้สหประชาชาติ เข้ามารับหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องนี้ ปาเลสไตน์ต้องการเกี่ยวพันกับสหรัฐในเชิงสร้างสรรข้อตกลงแห่งศตวรรษ แต่กลับกลายเป็นการล้มล้างแห่งศตวรรษ การประชุมฉุกเฉินครั้งนี้ ประธานาธิบดีเรเซพ เตย์ยิพ เออร์โดอัน ผู้นำตุรกี คือตัวตั้งตัวตีจัดการประชุมภายหลังผู้นำสหรัฐประกาศรับรองนครเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงอิสราเอล ซึ่งเหล่าผู้นำชาติมุสลิมเห็นว่ายิ่งทำให้เกิดความรุนแรงและเหตุก่อการร้ายมากขึ้น


You must be logged in to post a comment Login