วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

กวนน้ำให้ใส?

On December 19, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ความคลุมเครือในการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการแก้ไขอย่างมากมายจนทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าทุกอย่างยังเดินไปตามโรดแม็พหรือไม่ เปรียบเหมือนน้ำที่กำลังตกตะกอนแต่กลับมีบางพวกมากวนให้ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง แม้ตอนนี้ชัดเจนว่าการแก้กฎหมายพรรคการเมืองต้องเกิดขึ้นแน่ แต่เป็นหน้าที่ของ คสช.ที่ต้องแกว่งสารส้มกวนน้ำให้ใสโดยใช้อำนาจมาตรา 44 คุมการแก้กฎหมายพรรคการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ แม้จะไม่เหมาะสมนักแต่เป็นทางเดียวที่ช่วยตัดข้อครหายื้อเวลาเลือกตั้งได้

ภาพการเมืองที่มัวๆอยู่พักใหญ่ถูกปรับโฟกัสให้ชัดเจนขึ้นอีกระดับ

เป็นความชัดเจนในการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ที่ถึงตอนนี้แจ่มแจ้งว่าจะมีการแก้ไขแน่นอน

แต่จะเป็นการแก้เฉพาะเพื่อปรับเงื่อนเวลาให้พรรคการเมืองทำตามเงื่อนไขต่างๆที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากเวลากระชั้นชิดและยังไม่มีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรม

หรือจะพ่วงแก้กฎหมายเพื่อรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ตามข้อเสนอของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ด้วยหรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน

ความต้องการในการแก้กฎหมายพรรคการเมืองตอนนี้แยกได้เป็นสองส่วน

ส่วนที่หนึ่งคือความต้องการแก้มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องแก้ปมเงื่อนที่ตัวเองผูกไว้หลังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ทันตามกรอบเวลา ซึ่งกรอบเวลาแรกจะครบกำหนดในวันที่ 5 มกราคมปีหน้า

การแก้ไขในส่วนนี้ถูกส่งสัญญาณค่อนข้างชัดว่าจะใช้อำนาจพิเศษมาตรา 44 ของหัวหน้าคสช.ปรับแก้เพื่อให้เบ็ดเสร็จในขั้นตอนเดียว ไม่ยื่นแก้กฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

สัญญาณที่ถูกส่งออกมานี้ต้องการให้เกิดความเข้าใจใน 2 ส่วน

ส่วนแรกคือแก้เพื่อแสดงความรับผิดชอบผลต่อกระทบที่ไม่ยอมปลดล็อก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านสถานะการดำรงอยู่ของพรรคการเมืองซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆเกิดขึ้นตามมา

อีกส่วนก็เพื่อส่งสัญญาณว่าการใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายพรรคการเมืองจะทำให้ไม่ยุ่งยากเยิ่นเย้อ ประกาศปุ๊บมีผลในทันที เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อโรดแม็พเลือกตั้งปลายปีหน้า

ขณะที่ความต้องการแก้กฎหมายพรารคการเมืองจากอีกส่วนเป็นความต้องการของนายสุเทพกับนายไพบูลย์ และสมาชิก สนช.บางส่วนที่ต้องการลากการแก้กฎหมายเข้าไปดำเนินการในสภา ซึ่งต้องดำเนินการหลายขั้นตอนและใช้เวลาค่อนข้างมาก

ความต้องการในส่วนนี้น่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้าว่าสรุปแล้วจะมีการเสนอแก้กฎหมายพรรคการเมืองกันในสภาจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะมีความต้องการจากกลุ่มไหนสรุปว่ากฎหมายพรรคการเมืองที่เพิ่งประกาศใช้และยังบังคับใช้จริงไม่ครบทุกมาตราจะถูกแก้ไขแน่นอน

ส่วนความกังวลที่ว่าการแก้กฎหมายพรรคการเมืองจะทำให้โรดแม็พเลือกตั้งถูกขยับหรือยืดออกไปนั้น

กรณีนี้หากฝ่ายคุมอำนาจมีความจริงใจที่จะยึดตามโรดแม็พ ไม่ว่าจะมีข้อเสนอแก้กฎหมายพรรคการเมืองมาจากกี่กลุ่มกี่ฝ่าย ไม่ว่าจะเสนอแก้กันกี่ประเด็น สามารถทำให้เกิดความมั่นใจต่อการยึดมั่นตามโรดแม็พได้ด้วยการนำเสนอข้อ หรือเชิญผู้เสนอและคนคัดค้านมาแสดงเหตุผลแล้วใช้อำนาจชี้ขาดว่าจะใช้มาตรา 44 แก้หรือไม่แก้ในประเด็นที่ถูกเสนอ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าโดแม็พเลือกตั้งยังคงเดิม

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะแก้มากน้อยกี่มาตรา แต่ตามหลักการแล้วการใช้อำนาจมาตรา 44 แก้กฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญถือว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

ถ้าจะแก้ควรแก้หรือเพิ่มเติมในบทเฉพาะกาลที่ให้มีสภาพบังคับใช้ชั่วคราวเท่านั้นว่าจะให้งดเว้นการใช้กฎหมายพรรคการเมืองมาตราไหนบ้างสำหรับการเลือกตั้งครั้งแรก ส่วนการเลือกตั้งครั้งต่อไปปล่อยให้สภาปรกติที่มาจากเลือกตั้งไปตกลงกันเองว่าจะแก้หรือไม่แก้อย่างไร

ป.ล. (ปัจฉิมลิขิต) การใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่องดเว้นการบังคับใช้กฎหมายพรรคการเมืองบางมาตรา แม้จะโดนวิจารณ์ถึงเป้าหมายแอบแฝง (ถ้ามี) อยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ทำให้มั่นใจได้ประการหนึ่งว่าโรดแม็พเลือกตั้งไม่เลื่อนออกไปแน่


You must be logged in to post a comment Login