- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ระฆังพักยก?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
สองประเด็นร้อนการเมืองดูเหมือนถูกถอดชนวนลดอุณหภูมิลงได้แล้ว กรณี “บิ๊กป้อม” ผู้เกี่ยวข้องเลิกพูดจาปกป้อง ขณะที่เจ้าตัวใช้ความนิ่งเงียบชักฟืนออกจากกองไฟ อย่างน้อยก็ยื้อเวลาไปได้อีกหลายเดือนกว่าป.ป.ช.จะให้คำตอบสุดท้าย ถึงตอนนั้นจะหาทางลงกันอย่างไรค่อยว่ากันอีกที ส่วนเรื่องปลดล็อกการเมืองชัดเจนว่าใช้มาตรา 44 ขยายเวลาให้ดำเนินการตามข้อกำหนดกฎหมายพรรคการเมือง พรรคตั้งใหม่เริ่มทำกิจกรรมได้ ส่วนพรรคเก่ารอสัญญาณไฟเขียวกลางปีหน้า เรื่องร้อนทั้งสองประเด็นผ่านจุดพีคไปแล้ว เป็นช่วงพักยกให้ฝ่ายคุมอำนาจมีเวลาคิดว่าจะพลิกจากตั้งรับเป็นรุกกลับได้อย่างไรหลังจากนี้
ท่ามกลางสถานการณ์ในบ้านเมืองตอนนี้อย่างน้อยก็มีความชัดเจนแล้ว 2 เรื่อง
เรื่องหนึ่งคือนาฬิกาหรูกับแหวนเพชรของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตอนนี้ถูกปล่อยให้เป็นเรื่องของ “บิ๊กป้อม” กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะต้องไปหาทางลงกันเอาเองว่าจะจบเรื่องนี้อย่างไร
ดูตามทรงแล้วเรื่องนี้น่าจะยื้อกันไปอีกพักใหญ่ๆ อย่างน้อยอาจจะถึง 2 หรือ 3 เดือน แม้ตามกรอบเวลาที่ป.ป.ช.ขีดเส้นให้ “บิ๊กป้อม” ส่งคำชี้แจงภายในต้นเดือนมกราคม แต่อาจมีการขอยืดเวลาชี้แจงได้ และหลังจากได้รับคำชี้แจงป.ป.ช.ก็ยังต้องใช้เวลาพิจารณาคำชี้แจง กว่าจะทำการไต่สวนกว่าจะสรุปเรื่องได้รอกันไปยาวๆ
แต่ระหว่างรอก็ต้องประเมินรอบด้านด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทหารคสช.มากน้อนแค่ไหน อย่างไร
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในตอนนี้ต้องบอกว่าเรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชรของ “บิ๊กป้อม” นั้นได้ผ่านจุดพีคทางการเมืองไปแล้ว
เรื่องจะกลับมาร้อนอีกครั้งก็วันที่ป.ป.ช.แถลงมติตรวจสอบ ไม่ว่าจะออกทางบวกหรือทางลบกับ “บิ๊กป้อม” รัฐนาวาของคสช.จะถูกคลื่นลมการเมืองซัดอีกละรอก
อีกเรื่องที่น่าจะผ่านจุดพีคของความเป็นประเด็นร้อนไปแล้วคือเรื่องปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าการใช้อำนาจมาตรา 44 ยืดเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายพรรคการเมืองจะออกมาก่อนวันที่ 5 มกราคม 2561 แน่นอน
คำสั่งดังกล่าวจะมีผลให้ผู้ที่จะก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่สามารถจองชื่อพรรคการเมือง สรรหาสมาชิก เก็บค่าบำรุงพรรคจากสมาชิก และให้เริ่มประชุมใหญ่ครั้งแรก เพื่อคัดเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคได้ ภายใต้เงื่อนไขจะต้องขออนุญาต คสช.ก่อน
สำหรับพรรคการเมืองเก่า ที่มีอยู่ 69 พรรค คสช.ยังไม่อนุญาตจัดประชุมใหญ่แต่อนุญาตตรวจสอบสถานภาพสมาชิกเดิมได้ไปพลางก่อน จะรอจนกว่ากฎหมายเลือกตั้งส.ส.ฉบับใหม่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาอยู่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมืองก่อนจึงปลดล็อกให้ทำกิจกรรมได้เต็มที่เพื่อเตรียมลงสู่สนามเลือกตั้ง
คาดกันว่าคสช.จะแกะเชือกมัดมือให้อิสระกับพรรคการเมืองไปราวเดือนมิถุนายน 2561
หมายความว่าพรรคการเมืองจะใช้เวลาส่วนใหญ่วุ่นวายอยู่กับการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายพรรคการเมือง การทำนโยบายหาเสียงและคัดเลือกตัวผู้สมัครส.ส. ไม่มีเวลาเหลือมากพอที่จะมาตอแยกับรัฐบาลทหารคสช.ทั้งในเรื่องตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน
เป็นไปตามที่ใครหลายคนคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้เพราะถ้าปลดล็อกเร็วรัฐบาลทหารคสช.จะถูกพรรคการเมืองรุมกระหน่ำรอบด้าน ซึ่งจะกระทบชิ่งไปถึงพรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นมาสานต่ออำนาจให้คสช.ด้วย
สรุปทั้งเรื่อง “บิ๊กป้อม” ปลดล็อกการเมืองผ่านจุคพีคที่จะใช้ต่อความยาวสาวความยืดทางการเมืองไปแล้ว
รอเดือดกันอีกทีก็ตอนป.ป.ช.ชี้ชะตา “บิ๊กป้อม” ไม่ว่าออกทางไหนจะเป็นเชื้อให้ไฟการเมืองคุโชนขึ้นมาอีกครั้งแน่นอน
You must be logged in to post a comment Login