- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ปลาไม่กินเหยื่อ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
กระแสข่าวตกปลาในบ่อเพื่อนของพรรคการเมืองที่จะเกิดใหม่เพื่อเบ่งตัวให้ใหญ่แข่งกับพรรคเก่าได้เป็นสูตรสำเร็จที่มีให้เห็นมาตลอด แต่สูตรสำเร็จนี้อาจใช้ไม่ได้กับการเมืองปัจจุบันที่ประชาชนยึดติดกับตัวผู้สมัครส.ส.น้อยลง หันไปให้ความสำคัญกับพรรค นโยบายและผลงานในอดีตมากขึ้น นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้มีข้อเสนอว่าเลือกตั้งปลายปีหน้าส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรค แม้จะมีเสียงยี้ดังกระหึ่มแต่ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าข้อเสนอนี้ก็อาจเป็นจริงได้
นั่งดูการเมืองเหมือนดูหนังม้วนเก่า ละครเรื่องเก่าที่นำมารีรันฉายวนซ้ำๆโดยไม่กลัวว่าคนดูจะเบื่อ
การปลดล็อกการเมืองแบบ 2 ขยัก ให้พรรคที่จะตั้งใหม่ขยับออกตัวได้ก่อนพรรคเก่า สามารถแจ้งความจำนงค์ก่อตั้งพรรค ยื่นจองชื่อพรรคและจัดประชุมเพื่อเตรียมการก่อตั้งพรรคได้ แม้จะมีข้อแม้ว่าต้องยื่นขออนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อน
แต่ก็ชัดว่าเป็นการหาทางออกให้กับกลุ่มคนที่เกรงว่าพรรคใหม่จะเสียเปรียบพรรคเก่า เพื่อไม่ต้องแก้ไขพ.ร.ป.พรรคการเมืองในสภาอย่างที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ในตอนนี้ เพื่อเลี่ยงข้อครหา ลดเสียงวิจารณ์ ที่เริ่มดังมากเกินไปจนส่อว่าจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทหารคสช.
นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งนอกเหนือเหตุผลติดภารกิจที่ทำให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขพ.ร.ป.พรรคการเมืองตอบปฏิเสธที่จะไปให้ข้อมูลกับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามคำเชิญในวันนี้ (22 ธ.ค.)
เมื่อทิศทางการเมืองเป็นไปในลักษณะนี้ก็ค่อนข้างแน่นนอนว่าจะมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกที่สามให้กับประชาชนในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึงในช่วงปลายปีหน้าตามโรดแม็พ
เมื่อจะเสนอตัวเป็นทางเลือกที่สามแข่งกับสองพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ การจะเติบโตแบบเร่งด่วนให้แข่งกับเจ้าสนามเดิมได้ก็มีแค่สองทางเท่านั้น
หนึ่งคือบอนไซพรรคเก่าไม่ให้เติบโตไปมากกว่าที่เป็นอยู่ จับพรรคเก่ามัดมือมัดเท้าไม่ให้เล่นตามเกมถนัดได้อย่างเสรี ซึ่งกรณีนี้ได้สร้างกฎหมายเป็นเงื่อนไข เป็นโซ่ตรวนเอาไว้แล้ว
อีกหนึ่งคือเมื่อบอนไซพรรคเก่าไม่ให้โตเกินกว่าจะแข่งได้แล้ว ยังต้องทำให้เล็กลงด้วยการดูดเอาอดีตส.ส.ออกมาจากทั้งสองพรรคใหญ่ หรือที่ภาษาการเมืองเรียกกันว่า “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เพราะจะให้เริ่มเลี้ยงปลาเองตั้งแต่ตัวเล็กๆคงโตไม่ทันเลือกตั้งปลายปีหน้า
เรื่องแบบนี้ไม่มีมูลหมาไม่ขี้เมื่อ นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีคนทาบทามอดีตส.ส.เพื่อไทยเข้าสังกัดพรรคใหม่โดยเสนอผลตอบแทนให้มากมายเรียกว่าเสนอกันทุกวิถีทาง แต่เชื่อว่าไม่มีใครออกจากพรรคเพื่อไทยเพราะพรรคยังคงยึดมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย พี่น้องประชาชนเท่านั้นที่จะตัดสินเรา
สิ่งที่นายสมคิดพูดจริงเท็จแค่ไหนไม่มีใครรู้ แต่อดีตที่ผ่านมาเราก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วหลายยุคหลายสมัย
อย่างไรก็ตามการคิดจะโตทางลัดด้วยการตกปลาในบ่อเพื่อนปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก
การลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.ในปัจจุบันแม้ประชาชนในชนบทอาจจะยังยึดติดตัวบุคคลหรือผู้สมัครอยู่บ้างแต่ไม่มากเหมือนในอดีตที่ส.ส.ย้ายพรรคได้ตามอำเภอใจ ย้ายพรรคได้ตามผลประโยชน์ที่ถูกหยิบยื่นให้ เพราะมั่นใจว่าย้ายไปใส่เสื้อพรรคไหนลงสมัครก็ชนะเลือกตั้ง
ปัจจุบันชื่อพรรคและนโยบายบวกกับผลงานที่ผ่านมากลายมาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของประชาชน ตัวบุคคลตกเป็นปัจจัยรอง ไม่อย่างนั้นพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทยที่รากฐานมาจากพรรคไทยรักไทยคงไม่ชนะเลือกตั้งในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาทั้งที่มีความพยายามทำให้แตกสลายหลากหลายวิธี ทั้งยุบพรรค แก้กติกาและดูดเอากลุ่มการเมืองต่างๆในพรรคออกไป แต่กลับกลายเป็นว่าพวกที่ออกไปจากพรรคสอบตกเสียเป็นส่วนใหญ่
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้สูตรสำเร็จอย่างตกปลาในบ่อเพื่อนเพื่อให้พรรคใหม่กลายเป็นพรรคใหญ่เพียงชั่วข้ามคืนเป็นไปได้ค่อนข้างยากในปัจจุบัน
นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้มีข้อเสนอว่าเลือกตั้งปลายปีหน้าส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรค
You must be logged in to post a comment Login