วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วิ่งเบิร์นไขมัน / โดย สถาวร จันทร์ผ่องศรี

On December 25, 2017

คอลัมน์ : โลกสุขภาพ

ผู้เขียน :  สถาวร จันทร์ผ่องศรี

ยุคนี้การวิ่งได้รับความนิยมมาก ผู้คนทุกเพศทุกวัยวิ่งออกกำลังกายมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่คนไทยหันมาออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น

อยากให้ทุกคนมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวิ่ง บางคนใส่เสื้อหนาๆวิ่งเพื่อรีดน้ำรีดไขมัน ซึ่งลดได้ก็จริงแต่เป็นเหงื่อ หรืออาจจะลดไขมัน แต่กลับทำให้ร่างกายเกิดความร้อนและการใช้พลังงานเผาผลาญไขมันนั้นจะสูญเปล่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำในเลือดลด เลือดข้น เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงจนทำให้ภารกิจการวิ่งไม่สำเร็จ เนื่องจากการวิ่งเพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและใช้ความต่อเนื่อง

เทคนิคในการวิ่งเพื่อลดไขมันคือ การวิ่งช้า โดยมีหลักการว่าวิ่งให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา ซึ่งจะทำให้เอนไซม์ไลเปสในตับอ่อนที่ช่วยสลายไขมันทำงานได้ดี หรือวัดจากความหนักของการวิ่ง ร่างกายจะเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุดเมื่อวิ่งในระดับความหนักเพียง 60-70% ของอัตราการเต้นของชีพจรสูงสุด ซึ่งคำนวณโดยใช้ 220-อายุ ส่วนวิธีเช็กว่าเราวิ่งที่ความหนัก 60-70% หรือยัง สามารถดูได้จากนาฬิกาที่บอกอัตราการเต้นของชีพจร

ถ้าจะให้ดีควรฝึกจับความรู้สึกของตัวเองซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ เหนื่อยหอบเบาๆ เหนื่อยหอบปานกลาง เหนื่อยหอบหนัก และเหนื่อยหอบแบบทนไม่ไหว การวิ่งที่ความหนัก 60-70% จะรู้สึกเหนื่อยหอบเบาๆ ยังสามารถพูดคุยได้ตามปรกติ สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการวิ่งคือ 20 นาที เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดึงไขมันมาใช้มากกว่าน้ำตาล ส่วนความถี่ที่เหมาะสมคือ วิ่ง 3 วัน พัก 1 วัน

การวิ่งไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการลดน้ำหนักเสียทีเดียว เพราะฉะนั้นควรวิ่งควบคู่กับการควบคุมอาหาร และควรเล่นเวทเสริมเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ซึ่งจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นด้วย


You must be logged in to post a comment Login