- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
วิ่งเบิร์นไขมัน / โดย สถาวร จันทร์ผ่องศรี
คอลัมน์ : โลกสุขภาพ
ผู้เขียน : สถาวร จันทร์ผ่องศรี
ยุคนี้การวิ่งได้รับความนิยมมาก ผู้คนทุกเพศทุกวัยวิ่งออกกำลังกายมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่คนไทยหันมาออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น
อยากให้ทุกคนมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวิ่ง บางคนใส่เสื้อหนาๆวิ่งเพื่อรีดน้ำรีดไขมัน ซึ่งลดได้ก็จริงแต่เป็นเหงื่อ หรืออาจจะลดไขมัน แต่กลับทำให้ร่างกายเกิดความร้อนและการใช้พลังงานเผาผลาญไขมันนั้นจะสูญเปล่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำในเลือดลด เลือดข้น เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงจนทำให้ภารกิจการวิ่งไม่สำเร็จ เนื่องจากการวิ่งเพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและใช้ความต่อเนื่อง
เทคนิคในการวิ่งเพื่อลดไขมันคือ การวิ่งช้า โดยมีหลักการว่าวิ่งให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา ซึ่งจะทำให้เอนไซม์ไลเปสในตับอ่อนที่ช่วยสลายไขมันทำงานได้ดี หรือวัดจากความหนักของการวิ่ง ร่างกายจะเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุดเมื่อวิ่งในระดับความหนักเพียง 60-70% ของอัตราการเต้นของชีพจรสูงสุด ซึ่งคำนวณโดยใช้ 220-อายุ ส่วนวิธีเช็กว่าเราวิ่งที่ความหนัก 60-70% หรือยัง สามารถดูได้จากนาฬิกาที่บอกอัตราการเต้นของชีพจร
ถ้าจะให้ดีควรฝึกจับความรู้สึกของตัวเองซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ เหนื่อยหอบเบาๆ เหนื่อยหอบปานกลาง เหนื่อยหอบหนัก และเหนื่อยหอบแบบทนไม่ไหว การวิ่งที่ความหนัก 60-70% จะรู้สึกเหนื่อยหอบเบาๆ ยังสามารถพูดคุยได้ตามปรกติ สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการวิ่งคือ 20 นาที เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดึงไขมันมาใช้มากกว่าน้ำตาล ส่วนความถี่ที่เหมาะสมคือ วิ่ง 3 วัน พัก 1 วัน
การวิ่งไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการลดน้ำหนักเสียทีเดียว เพราะฉะนั้นควรวิ่งควบคู่กับการควบคุมอาหาร และควรเล่นเวทเสริมเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ซึ่งจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นด้วย
You must be logged in to post a comment Login