วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ไฟลามทุ่ง?

On December 28, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ปัญหานาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” กำลังส่งผลในทางลบมากกว่าที่คิด เพราะเรื่องถูกขยายจากจงใจปกปิดทรัพย์สินโดยไม่แจ้งกับป.ป.ช.ไปเป็นร่ำรวยผิดปรกติ ขณะที่ทางออกที่โยนหินถามทางมาก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับตอนนี้ งานนี้เหนื่อยทั้งคนถูกตรวจสอบและคนทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างป.ป.ช. และอาจเป็นกรณีตัวอย่างให้เกิดปรากฏการณ์ไฟลามทุ่งสะเทือนนายพลอีกหลายรายได้ หากใช้สมมุติฐานเรื่องที่มาของรายได้จากเงินเดือนข้าราชการเทียบเคียงกับทรัพย์สินที่มีอยู่ ถ้ามีคนเอะใจกล้าไปยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบเพิ่มเติม

มาเร็วกว่าที่คิดกับเรื่องยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในข้อหา “ร่ำรวยผิดปรกติ”

ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ลงจากหลังเสือ เพื่อตามเช็คบิลจากกลุ่มบุคคลที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับคสช.

แต่กลับกลายเป็นว่าผู้ที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ “บิ๊กป้อม” ไม่ใช่คนที่ถูกมองเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่กลับเป็นคนที่เคยให้การสนับสนุน อย่างนายวีระ สมความคิดเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น แถมยังเป็นการยื่นให้สอบในช่วงที่ คสช.ยังเรืองอำนาจอยู่เสียด้วย

จากนาฬิกาหรูเรือนเดียวที่ถูกจับภาพได้เพราะยกมือขึ้นบังแดด เรื่องราวกำลังรุกลามบานปลายใหญ่โต

จากนี้ไปเวลาไปเปิดงานหรือไปพูดที่ไหนว่าให้ผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยงานต่างๆ ทำงานด้วยความโปร่งใส หรือป้องปากบอกประชาชนว่าตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยทุจริตแม้แค่บาทเดียว น้ำหนักความน่าเชื่อถือก็จะลดน้อยลง

ต้องรอจนกว่าจะเคลียร์ข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปรกติกับป.ป.ช.ให้เรียบร่อยเสียก่อน

ที่สำคัญต้องเคลียร์ให้กระจ่าง หมดคำถาม หมดข้อกังขา

ไม่ว่าตอนจบเรื่องนี้จะออกมาทางไหนอย่างไรบอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยถึงขั้นปาดเหงื่อทั้งตัว “บิ๊กป้อม” เองและ ป.ป.ช.ทั้งคณะ โดยเฉพาะกรรมการป.ป.ช.หลายคนที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแต่ถูกอุ้มให้อยู่ทำงานต่อจนครบวาระ

โฟกัสจะถูกจับจ้องไปที่ประธานป.ป.ช.เพราะว่าเคยทำงานใกล้ชิดกับ “บิ๊กป้อม” มาก่อน

กรอบเวลาแรกที่เรื่องนี้จะส่งผลทันทีหลังฉลองปีใหม่คือวันที่ 8 มกราคม ปีหน้า ที่ป.ป.ช.ขีดเส้นให้ “บิ๊กป้อม” ต้องชี้แจงที่มาที่ไปนาฬิกาหรูเรือแรกที่ถูกจับภาพได้

แม้อาจจะมีช่องให้ยื้อเวลาอยู่บางแต่ยิ่งยื้อจะยิ่งเหนื่อย เพราะตอนนี้ไม่ได้มีนาฬิกาแค่เรือเดียวที่ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้ใส่ไว้ในรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นแสดงต่อป.ป.ช.

ทางออกที่ว่ายืมเพื่อมาใส่ที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้น่าจะถูกปิดตายไปแล้วเพราะถูกขุดคุ้ยว่ามีนาฬิกาหลายเรือนเกินไปที่ไม่แจ้งถือครองต่อป.ป.ช.

ทางออกที่ว่าอาจเป็นการได้มาในช่วงหลังจากรับตำแหน่งไม่แจ้งถือว่าไม่ผิดเพราะกฎหมายบังคับให้แจ้งบัญชีเฉพาะก่อนและหลังพ้นจากตำแหน่งก็ดูท่าว่าจะไม่ใช่ทางออกที่สวยหรูเมื่อมีนาฬิกาหลายเรือนเกินไปที่ไม่แจ้งบัญชีต่อป.ป.ช.

นี่ถ้ามีคนไปขุดคุ้ยหาภาพมาได้ว่านาฬิกาบางเรือนเคยใส่ออกงานมาก่อนที่จะเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นจุดจบของเรื่องนี้ทันที

เรื่องนาฬิกาที่ว่าหาทางออกค่อนข้างยากแล้วสิ่งที่นายวีระยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบยังให้ตามไปดูรถยนต์ที่ “บิ๊กป้อม” แจ้งไว้ในบัญชีว่ามีอยู่ในครอบครองแค่คันเดียว แถมราคาประเมินยังต่ำแค่ประมาณ 100,000 บาท

คนระดับ “บิ๊กป้อม” ที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินกว่า 87 ล้านบาท แต่มีรถคันเดียว แถมราคาประเมินไม่แพง เป็นคำถามที่ท้าทายการตรวจสอบของป.ป.ช.เป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมารถที่ประชาชนเห็น “บิ๊กป้อม” นั่งไปไหนมาไหนไม่น่าจะมีราคาแค่แสนเดียวซึ่งอาจเป็นรถประจำตำแหน่ง แต่รถที่แจ้งราคาประเมินไว้แสนเดียวคนส่วนใหญ่ไม่เคย “บิ๊กป้อม” ใช้รถส่วนตัวคันนี้ในการเดินทาง

ที่สำคัญกรณีนี้ไม่อาจมีแค่ “บิ๊กป้อม” คนเดียวเพราะประเด็นคำถามที่ว่า

“พล.อ.ประวิตรที่ได้รับตั้งแต่รับราชการทหารยศร้อยตรี เมื่อปี 2513 มีเงินเดือนประมาณ 2,000 บาท  และถ้ารวมเงินเดือนจนถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี ก็ไม่น่าถึง20 ล้านบาท”

หากใช้สมมุติฐานนี้เทียบเคียงคงสะเทือนนายพลอีกหลายคนถ้ามีคนไปยื่นให้ตรวจสอบ


You must be logged in to post a comment Login