ขสมก.ซื้อรถเอ็นจีวี.ส่อไม่รอด

• Tweet
• 

บอร์ดวงแตกระส่ำระสายหนักมีทั้งลาออกยื่นหนังสือทักท้วงหวั่นต้องรับผิดชอบทั้งแพ่งและอาญา วิ่งฝุ่นตลบร้องขอตรวจสอบเทปบันทึกเสียงวันรับรองผลโหวต ขสมก.โยกโย้อ้างมีผู้ใหญ่สั่งห้ามเปิดเผย
ภายหลังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก.เดินหน้าลงนามสัญญาจัดซื้อและซ่อมแซมรถโดยสาร เอ็นจีวี.489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทด้วยวิธีคัดเลือกที่กลุ่มกิจการร่วมค้า SCN-CHO ประกอบด้วย บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน), บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นเอกชนรายเดียวที่เข้ายื่นเสนอราคาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสคัดค้านทั้งเอกชนและสื่อมวลชนจนกลายเป็นกระแสข่าวทอล์คอ๊อฟเดอะทาวน์ไปแล้วด้าน ขสมก.ดื้อไม่เลิกเดินหน้าต่อทั้ๆงที่รู้อาจสะดุดขาตัวเองสักวันร่อนเอกสารชี้แจงสื่อมวลชลหวังกลบกระแสฮ๊อต
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม นายสุรดิษฐ์ ศรีดามาส กรรมการบริษัท แม่โขงเทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้ให้ปากคำพร้อมยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ปปช.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น ตนได้อ่านหนังสือชี้แจงของ ขสมก.ตามเอกสารชี้แจงที่ ขสมก.2056/2560 ลงวันที่ 27 ธ.ค. ลงนามโดยนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผอ.ขสมก. ตามความเห็นของตน คือขสมก.ยังตอบไม่ตรงประเด็นแต่ก็แปลกใจที่ ขสมก.กลับยอมรับว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารหรือ บอร์ด.เมื่อวันที่ 18 และ 20 ธันวาคมที่แท้เป็นเท็จ เพราะจริงๆแล้วคณะกรรมการบริหาร ขสมก.หรือบอร์ด ยังไม่มีการรับรองเห็นชอบให้ทำสัญญาจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวี.ดังกล่าว
นายสุรดิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าพิจารณาจากหนังสือชี้แจงของ ขสมก.ข้อที่8.ระบุว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการองค์กร ขสมก.ได้อ้างถึงมติการประชุมครั้งที่ 15/2560 วันที่ 18 ธันวาคม อนุมัติให้ ขสมก.ดำเนินการจัดซื้อรถโดยสาร กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO แต่เนื่องจากในที่ประชุมได้มีการซักถามโดยเฉพาะประเด็นความเหมาะสมของราคาและกระบวนการจัดหา ซึ่ง ขสมก.ได้ชี้แจงและยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามระเบียบครบถ้วน ในส่วนของประเด็นความเหมาะสมของราคาองค์การจะให้มีการชี้แจงและยืนยัน เพื่อบันทึกในรายงานการประชุม เพื่อขอให้คณะกรรมการ(บอร์ด)รับรองในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งในการประชุมบอร์ดครั้งที่ 16/2560เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมได้มีการนำเสนอรายงานการประชุมอีกครั้ง แต่เนื่องจากกรรมการบางท่าน ยังมีข้อซักถามเพิ่มเติมและเห็นว่าการชี้แจงเพิ่มเติมในรายงานการประชุมยังไม่ชัดเจนเพียงพอกรรมการจำนวน 3 ท่านจึงขอให้บันทึกว่า ยังไม่เห็นชอบกับการประชุมครั้งที่แล้ว
นายสุรดิษฐ์กล่าวอีกว่า จากการชี้แจงของ ขสมก.ข้อนี้ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วตามเนื้อความว่า มติเห็นชอบตามที่นายณัฐชาติ อ้างต่อสื่อมวลชนว่า วันที่ 18 ธันวาคมนั้นแท้จริงแล้ว ยังไม่มีการรับรองและเห็นชอบออกมาเป็นมติใดๆทั้งสิ้นเนื่องจาก ขสมก.ยังไม่ตอบข้อสงสัยของบอร์ดเรื่องความเหมาะสมของราคาและกระบวนการจัดหาซึ่งถือว่าเป็นสาระสำคัญอย่างยิ่งจะปล่อยปะละเลยไม่ได้เด็ดขาด ขสมก.เองก็อ้างว่า “จะให้มีการชี้แจงและยืนยันเพื่อบันทึกในรายการประชุม เพื่อขอให้คณะกรรมการฯรับรองในการประชุมครั้งต่อไป” คำชี้แจงของ ขสมก.จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การประชุมบอร์ดวันที่ 18 ธันวาคม ยังไม่มีการรับรองผลโหวใดๆทั้งสิ้นนั่นหมายความว่า บอร์ดต้องได้รับการชี้แจงจาก ขสมก.ก่อนถึงความเหมาะสมของราคาและกระบวนการจัดหาซึ่งถือว่าเป็นสาระสำคัญ แต่ ขสมก.อ้างจะไปชี้แจงและยืนยันในรายงานการประชุมและขอให้บอร์ดรับรองการประชุมบอร์ดอีกครั้ง16/2560ในวันที่ 20 ธันวาคม. และต่อมาในการประชุมวันที่ 20 ธันวาคม ได้มีการนำเสนอรายงานการประชุมอีกครั้ง แต่เนื่องจากกรรมการบางท่าน ยังมีข้อซักถามเพิ่มเติมและเห็นว่าการชี้แจงเพิ่มเติมในรายงานการประชุมยังไม่ชัดเจนเพียงพอกรรมการจำนวน 3 ท่านจึงขอให้บันทึกว่า ยังไม่เห็นชอบกับการประชุมครั้งที่แล้ว นอกจากนี้วันที่ 20 ธันวาคมมีบอร์ดเข้าประชุมเพียง 7 ท่านเท่านั้นแถมยังโหวตไม่เห็นด้วย 4 เห็นด้วย 3เสียงหากวันที่ 20 ธํนวาคมมีการนับโหวตและรับรองผลโหวตจริงเสียงที่ไม่เห็นด้วย 4 เสียงถึงจะถือเป็นมติที่แท้จริง
“คำตอบของ ขสมก.ที่ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ข้อนี้ชัดเจนเป็นที่สุดโดยเฉพาะมติบอร์ดที่ยังไม่มีการรับรองรายการการประชุมเกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง แต่นายณัฐชาติ กลับออกมาอ้างว่าบอร์ดได้ลงมติเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยจนมีการนำไปสู่การลงนามสัญญาซื้อขายกับเอกชนไปแล้วด้วยความร้อนรนเมื่อเวลา 9 โมงเช้าของวันที่ 27 ธันวาคม ซี่งตนได้มอบหมายให้ฝ่ายกฏหมายทำหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง.และคณะกรรมาธิการคมนาคมในวันจันทร์นี้”นายสุรดิษฐ์กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากสมาคมผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.รายหนึ่ง(ขอสงวนนาม) กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 5มกราคมที่ผ่านมา ทางสมาคมฯได้เข้าพบนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.เพื่ออวยพรปีใหม่ นอกจากนายณัฐชาติได้กล่าวขอบคุณสมาคมฯที่มีความเป็นห่วงเป็นใยแล้วยังกล่าวว่า“รถเอ็นจีวี.ที่พึ่งเซนต์สัญญาไปก็ยังลูกผีลูกคนจะได้รถหรือเปล่าไม่รู้ บอร์ดก็ยังระส่ำระสายกันอยู่ ตนได้ยื่นหนังสือลาออกไปตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม แต่ผู้ใหญ่ขอร้องให้อยู่ต่อ”นั่นหมายความว่ามติเห็นชอบของบอร์ดให้จัดซื้อรถเอ็นจีวี.ที่นายณัฐชาติอ้างถึงกำลังเกิดปัญหาระส่ำระสายอย่างหนักแน่นอน และในวันเดียวกันมีรายงานว่านางพัชรา พัชราวานิช บอร์ดท่านหนึ่งได้อ้างเหตุผลสุขภาพไม่ดียื่นหนังสือลาออกจากการเป็นบอร์ด ขสมก.แล้ว ขณะที่นายชัยชนะ มิตรพันธ์ บอร์ดอีกท่านที่เคยโหวตเห็นด้วยมาก่อนแต่กลับยื่นหนังสือทักท้วงต่อ ขสมก. และยังมีบอร์ดอีกหลายรายทำเรื่องร้องขอเทปบันทึกเสียงการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อขอตรวจสอบว่าที่ประชุมบอร์ดมีมติการรับรองเห็นชอบตามที่นายณัฐชาติออกมาสรุปต่อสื่อมวลชนเองจริงหรือไม่? ซึ่ง ขสมก.พยายามโยกโย้อ้างผู้ใหญ่มีคำสั่งสั่งไม่ให้เผยแพร่เด็ดขาด จนบอร์ดบางรายถึงกับต้องบอกว่าถ้าไม่ให้จะพากันลาออก ขสมก.ถึงยอมมอบเทปบันทึกเสียงให้แต่มีข้อแม้ว่า ต้องห้ามให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเด็ดขาดถึงขั้นขู่ฟ้องร้องกันเลยทีเดียว สร้างความอึดอัดใจให้แก่บรรดาบอร์ดเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลรถเอ็นจีวี.รายหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบคุณสมบัติตามกรอบที่กำหนดในทีโออาร์.แล้ว.โดยเฉพาะข้อ 5.7 จากการตรวจสอบยังไม่พบใบกำกับภาษีเพื่อที่ยืนยันว่า บริษัท ช ทวี จำกัด(มหาชน)ได้ทำธุรกรรมการจำหน่ายรถให้กับบริษัทมารัตน์จำกัดก่อนวันประมูลนอกนี้ยังมีการเพิ่มผลงานเข้ามาทีหลังเรื่องการจำหน่ายรถให้แก่บริษัท มณฑลพัฒนา(1994)จำกัด ทั้งๆที่ไม่ใช่ผลงานของตัวเอง เพียงแต่บริษัทมณฑลพัฒนา(1994) จำกัดซึ่งในวงการยานยนต์รู้จักกันดีว่าบริษัทนี้เป็นของเสี่ยหมูเคยขายรถบัสโดยสารให้แก่กองทัพบก 2 ล๊อตด้วยกัน ล๊อกแรก 4 คัน ล๊อตที่ 8 คัน เสื่ยหมูได้นำแชสซีรถโดยสารยี่ห้อเบนซ์แล้วมาว่าจ้างบริษัท ช ทวี เป็นผู้ต่อตัวถังรถเท่านั้นจะถือว่าเป็นผลงานจำหน่ายรถทั้งคันแบบเต็มคันไม่ได้เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อกำหนดในทีโออาร์. อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มเอกสารภายหลังการตรวจสอบคุณสมบัติและหลังการยื่นประมูล กรณีนี้อาจเป็นการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อทางราชการก็เป็นได้

You must be logged in to post a comment Login