- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 24 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
น้ำนิ่งไหลลึก! / โดย นายหัวดี
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/01/4743c.jpg)
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
กรณี “แหวนเพชรมารดา นาฬิกายืมเพื่อน” ของ “พี่ใหญ่” ซึ่งป.ป.ช.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องที่เป็นนักธุรกิจ 4 คน สำนักข่าวอิศราที่เกาะติดระบุการชี้แจงมี 3 แนวทางคือ
1.เป็นทรัพย์สินของตนเองและได้มาช่วงก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีหลังรัฐประหาร แต่หลงลืมก็ต้องยื่นเพิ่มเติมป.ป.ช. 2.เป็นทรัพย์สินของตนเอง แต่ได้มาหลังการยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว (ป.ป.ช.ให้ยื่นภายใน 30 วันหลังเข้ารับตำแหน่ง) ต้องยื่นต่อป.ป.ช.หลังพ้นตำแหน่ง 3.เป็นทรัพย์สินของบุคคลอื่น อาทิ คนรู้ใจใกล้ชิด ญาติพี่น้อง เพื่อนรักก็ไม่ต้องยื่นต่อป.ป.ช.
ประเด็นการอ้างเป็นของเพื่อนนักธุรกิจ การสอบสวนของป.ป.ช.คือ 1.ต้องเรียกนาฬิกามาตรวจสอบ (ดูของจริง) 2.หลักฐานที่มา อาทิ หลักฐานการซื้อขาย การจ่ายเงิน และ 3.สอบสวนพยานบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง
แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ “มูลนิธิอนุรักษ์ฝ่ารอยต่อ 5 จังหวัด” ที่ “พี่ใหญ่” เป็นประธานและมีข่าวเชื่อมโยงถึงเพื่อนนักธุรกิจนั้น มี “ทั่นผู้นำ” เป็นประธานกิตติมศักดิ์ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมการทั้งสิ้น 24 คน เป็นนายทหาร 19 คน อดีตข้าราชการและนักธุรกิจ 5 คน
จึงต้องจับตาว่านาฬิกาหรูและทรัพย์สินที่เพิ่มกว่า 30 ล้านบาทนั้น เกี่ยวข้องกับ “เพื่อนรักและน้องรัก” คนใดและจะอยู่ใน “มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” ด้วยหรือไม่?
You must be logged in to post a comment Login