- อย่าไปอินPosted 9 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ลักพาตัวอลเวง / โดย ศิลป์ อิศเรศ
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
เด็กชายวัย 4 ขวบ หายตัวไปขณะที่ครอบครัวพาไปตกปลา 8 เดือนต่อมามีคนแจ้งเบาะแสว่าพบเด็กหน้าตาคล้ายเด็กชายที่หายตัวไป คนดูแลเด็กถูกจับกุมในข้อหาลักพาตัวแม้เด็กยืนยันว่าเป็นคนละคนกัน
วันที่ 23 สิงหาคม 1913 เพอร์ซี่ และเลสซี่ ดันบาร์ พาบุตรชาย 2 คน โรเบิร์ตหรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่าบ๊อบบี้ วัย 4 ขวบ และอลอนโซ วัย 2 ขวบ ไปพักผ่อนตกปลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทะเลสาบสเวซี่ เมืองออพลูสซัส รัฐลุยเซียนา ทันทีที่เดินทางไปถึง บ๊อบบี้แยกไปตกปลากับพอล มิซซี่ เพื่อนสนิทของบิดา ขณะที่คนอื่นๆช่วยกันตระเตรียมสถานที่และข้าวของเครื่องใช้
เพอร์ซี่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นเจ้าของบริษัทประกันภัยที่ประสบความสำเร็จ มีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีมีเงิน เขาขอปลีกตัวสักครู่เพื่อไปดูแลกิจการ ปล่อยให้เลสซี่ดูแลลูกๆคนเดียว เวลาใกล้เที่ยงวันเลสซี่ตะโกนเรียกให้ทุกคนกลับมาช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร
พอลและบ๊อบบี้กลับมาช่วยเลสซี่ พอลบอกบ๊อบบี้ไม่ต้องช่วยเพราะยังเด็กเกินไป จะเกะกะขวางทางทำให้ยิ่งช้าขึ้นไปอีก บ๊อบบี้หัวเราะพร้อมกับพูดติดตลกตามประสาเด็กว่า “หายตัวไปเหมือนใช้เวทมนตร์”
เหลือเพียงรอยเท้า
หลังจากเตรียมอาหารเสร็จ บ๊อบบี้ก็ยังไม่กลับมา เลสซี่เริ่มเป็นห่วง เพราะบริเวณนั้นมีหนองน้ำที่ชุกชุมไปด้วยจระเข้ ช่วงเวลานั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เพอร์ซี่กลับมาจากสะสางงานเรียบร้อยแล้ว เขารีบขับรถกลับเข้าไปในเมืองเพื่อตามคนมาช่วยค้นหา
กำลังตำรวจและชาวบ้านกว่า 100 ชีวิตดำเนินการค้นหาตลอดทั้งวัน จากวันเป็นสัปดาห์ แต่ไม่มีวี่แววของบ๊อบบี้แม้แต่น้อย เลสซี่เกรงว่าจระเข้อาจลากเด็กน้อยไปเสียแล้ว ทีมค้นหาทำการจุดระเบิดโยนลงในหนองน้ำเผื่อว่าร่างของเด็กน้อยอาจลอยขึ้นมาให้เห็น อย่างน้อยจะได้รู้ชะตากรรมของบ๊อบบี้
ข่าวดีก็คือพวกเขาไม่พบอะไรในหนองน้ำ แต่ข่าวร้ายก็คือยังไม่พบตัวบ๊อบบี้เช่นเดียวกัน แต่แล้วในที่สุดก็มีคนพบรอยเท้ามุ่งหน้าไปที่ทางรถไฟ ซึ่งมีคนรายงานว่าพบเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งแถวๆนั้น เป็นไปได้ไหมว่าชายแปลกหน้าลักพาตัวบ๊อบบี้ไป
การหายตัวไปของบ๊อบบี้เป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลานั้น เพอร์ซี่ตั้งเงินรางวัล 1,000 ดอลลาร์ (ค่าเงินปัจจุบันประมาณ 25,000 ดอลลาร์) ให้กับผู้นำตัวเด็กมาคืน “เด็กชายวัย 4 ขวบ ผิวขาว ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า มีไฝที่คอ มีแผลเป็นที่นิ้วหัวแม่เท้า สวมชุดเสื้อกางเกงติดกันสีน้ำเงิน สวมหมวกฟาง ไม่สวมรองเท้า ชื่อเล่นบ๊อบบี้หรือร็อบบี้”
เหมือนจะใช่
หลายสัปดาห์ต่อมาหลังจากที่เป็นข่าว เพอร์ซี่ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากเมืองพ็อพลาร์วิลล์ รัฐมิสซิสซิปปี มีใจความสั้นๆว่าพบเห็นเด็กชายที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับบ๊อบบี้อยู่ที่บ้านนายช่างพเนจรคนหนึ่ง แต่ด้วยเกรงว่าจะพบกับความผิดหวัง เพอร์ซี่จึงไม่เดินทางไปดูด้วยตนเอง แต่ได้ส่งตัวอาร์ชี น้องชายเขาไปแทน และก็เป็นไปตามที่คาด อาร์ชีกลับมาบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่บ๊อบบี้
เดือนเมษายน 1914 แปดเดือนหลังจากที่บ๊อบบี้หายตัวไป เพอร์ซี่ได้รับโทรเลขอีกฉบับมีใจความว่าพบเห็นเด็กชายคนหนึ่งลักษณะคล้ายบ๊อบบี้อาศัยอยู่กับนายช่างพเนจรชื่อ วิลเลี่ยม วอลเตอร์ ที่เมืองโคลัมเบีย รัฐมิสซิสซิปปี
คราวนี้เพอร์ซี่ใช้เส้นสายให้นายอำเภอควบคุมตัววิลเลี่ยมและเด็กชายเอาไว้ชั่วคราวเพื่อรอให้เขาและภรรยาไปดูตัว เลสซี่ตรงเข้าไปหาเด็กชายทันทีที่เดินทางถึงสำนักงานนายอำเภอ เธอไม่มั่นใจว่าเด็กคนนี้คือบ๊อบบี้ ดูเหมือนเขาจะตาตี่และตัวเล็กไปหน่อย ขณะที่เด็กชายก็ยืนยันว่าชื่อบรูซ ไม่ใช่ชื่อบ๊อบบี้
วันรุ่งขึ้นนายอำเภออนุญาตให้เลสซี่อาบน้ำเด็กชายเพื่อสำรวจตำหนิต่างๆบนร่างกาย พบว่าเขามีไฝฝ้าและแผลเป็นเหมือนกับบ๊อบบี้ มั่นใจได้ 100% ว่าเป็นบ๊อบบี้แน่ๆ ขณะที่เด็กชายก็เกิดเปลี่ยนใจเรียกเลสซี่ว่า “แม่”
จำลูกไม่ได้
บ๊อบบี้กลับคืนสู่อ้อมกอดพ่อแม่ ชาวเมืองออพลูสซัสจัดพิธีต้อนรับอย่างใหญ่โต บ๊อบบี้ถูกนำขึ้นนั่งรถดับเพลิงพาโชว์ตัวไปรอบๆเมือง ขณะเดียวกันวิลเลี่ยมถูกจับกุมในข้อหาลักพาตัว เขาอาจถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตตามกฎหมายรัฐมิสซิสซิปปี
วิลเลี่ยมให้การว่า เพอร์ซี่และเลสซี่ต่างหากที่เป็นโจรลักพาตัว เด็กคนนั้นชื่อบรูซ แอนเดอร์สัน เป็นลูกชายของจูเลีย แอนเดอร์สัน อดีตคนดูแลพ่อแม่เขาสมัยที่อยู่รัฐนอร์ทแคโรไลนา เนื่องจากจูเลียไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก ดังจะเห็นว่าเธอเคยสูญเสียลูกชายไปแล้วถึง 2 คน วิลเลี่ยมจึงขอรับบรูซมาเลี้ยงดูเพราะสงสารเด็ก
หากคำให้การของวิลเลี่ยมเป็นความจริงก็พิสูจน์ได้ไม่ยาก แค่ตามตัวจูเลียมายืนยันเรื่องก็จบแล้ว หนังสือพิมพ์นิวออร์ลีนส์ออกเงินค่าเดินทางให้กับจูเลียเพื่อมาชี้ตัวบรูซที่วิลเลี่ยมอ้างว่าเป็นลูกชายของเธอ
บรูซถูกนำมายืนคละกับเด็กหลายคน จูเลียแสดงอาการลังเล เธอไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กคนไหนคือบรูซ ซึ่งผิดวิสัยของคนเป็นแม่ที่ควรจะจดจำลูกตัวเองได้ จึงสรุปได้ว่าเด็กที่วิลเลี่ยมอ้างว่าเป็นบรูซ แท้ที่จริงแล้วคือบ๊อบบี้
วิลเลี่ยมถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหาลักพาตัว จูเลียถูกกันเป็นพยานฝ่ายจำเลย แต่บังเอิญเธอป่วยในวันที่ต้องมาให้การกับศาล แต่เธอก็ได้เขียนคำให้การจากเตียง ยืนยันว่าบ๊อบบี้จริงๆแล้วคือบรูซ ลูกชายของเธอ ศาลไม่ยอมรับคำให้การนี้ ตัดสินลงโทษวิลเลี่ยมจำคุกตลอดชีวิต
ทนายจำเลยยื่นอุทธรณ์โดยให้เหตุผลว่า การที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมรับคำให้การของพยานนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาให้ปล่อยตัวจำเลย คดีจบลงเพียงเท่านี้เพราะอัยการไม่ยื่นฎีกา
ใครกันแน่ลักพาตัวเด็ก
บ๊อบบี้อาศัยอยู่กับเพอร์ซี่และเลสซี่จนเติบใหญ่ แต่งงานมีลูก 4 คน ก่อนจะเสียชีวิตในวัย 58 ปีด้วยโรคหัวใจวายเมื่อปี 1966 เรื่องราวของเขาควรจะจบลงเพียงเท่านั้นหากไม่เป็นเพราะหลานสาวของเขาได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของคุณปู่ที่พ่อเล่าให้ฟัง
ปี 1999 บ๊อบบี้ ดันบาร์ จูเนียร์ ลูกชายของบ๊อบบี้ นำเอกสาร หนังสือเก่าๆมาให้มาร์กาเร็ต ลูกสาวดู ลูกสาวก็ขี้สงสัยถามว่าจะเป็นยังไงถ้าหากคุณปู่บ๊อบบี้ไม่ใช่บ๊อบบี้ตัวจริง แต่เป็นบรูซตามคำให้การของวิลเลี่ยม
เธอรบเร้าให้พ่อเธอไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับอลอนโซ น้องชายปู่บ๊อบบี้ เพื่อไขเรื่องนี้ให้กระจ่าง ในที่สุดเมื่อปี 2004 บ๊อบบี้ ดันบาร์ จูเนียร์ ก็ยอมทำตามคำขอของลูกสาว ผลตรวจปรากฏออกมาว่า เขาไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับอลอนโซ ซึ่งนั่นหมายความว่าปู่บ๊อบบี้แท้ที่จริงแล้วคือบรูซ แอนเดอร์สัน
เป็นไปได้ที่เพอร์ซี่และเลสซี่รับบรูซเป็นลูกเพราะพวกเขาอยู่ระหว่างความโศกเศร้าอาดูรจึงไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว ส่วนจูเลียจงใจไม่ชี้ตัวบรูซเพราะเห็นว่าครอบครัวดันบาร์ร่ำรวย สามารถให้ชีวิตที่ดีแก่บรูซได้ โชคดีที่วิลเลี่ยมรอดคุกจากเรื่องยุ่งๆครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของบ๊อบบี้ ดันบาร์ ตัวจริง ยังคงเป็นปริศนาจวบจนทุกวันนี้
You must be logged in to post a comment Login