- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
อยู่ที่‘สปิริต’?

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เรื่องนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” ที่ถูกเพิ่มแรงกดดันจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก หลายชาติจนกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ขาดความสง่างาม หากจะเป็นตัวแทนรัฐไทยไปเจรจาเรื่องต่างๆกับต่างชาติในอนาคต ทำให้เกิดกระแสในทำนองว่า “บิ๊กป้อม” อาจแสดงสปิริตลาออกในเร็วๆนี้ แต่ความเชื่อที่ว่านี้ก็ยังไม่มีใครฟันธงได้ 100% ทำให้มีอีกกระแสกดดันไปที่นายกรัฐมนตรีว่าถึงเวลาต้องตัดสินใจเพื่อให้คณะรัฐมนตรีเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องกับประชาชน จึงต้องดูกันต่อไปว่าระหว่างออกเองกับถูกเชิญออกอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน หรือจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวในเชิงความคืบหน้าเกี่ยวกับนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกมาอย่างน่าสนใจ
ความน่าสนใจแรกอยู่ที่การเปิดตัวเพื่อน “บิ๊กป้อม” ที่อ้างว่าเป็นผู้ให้ยืมนาฬิกาหรูมาใส่เพิ่มความเท่
สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่าเจ้าของนาฬิกาหรูที่แท้จริงคือ “เสี่ยคราม” นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าสัวคอมลิ้งค์ ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่เรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และคบหาสนิทสนมกันมาตลอดกว่า 60 ปี
ที่ต้องขีดเส้นใต้ตัวโตๆคือ “เสี่ยคราม” เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560
ความน่าสนใจที่สองคือ ในรุ่นเดียวกันและซี้ย่ำปึกกันยังมีชื่อของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลทหาร คสช.
ความน่าสนใจที่สามคือ “หม่อมอุ๋ย” ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ออนไลน์ ระบุว่าอีกไม่นาน “บิ๊กป้อม” คงลาออกจากตำแหน่งเพราะทนกระแสสังคมไม่ไหว
“หม่อมอุ๋ย” เปรียบเปรยว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเองก็ต้องลาออก หากทำผิดกฎ ต้องแสดงสปิริต วันนี้ คสช.และรัฐบาล ก็สะเทือนแล้ว ในความรู้สึกของประชาชน
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ “หม่อมอุ๋ย” ที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องการให้นาฬิกากันยืมใส่ และไม่รู้ด้วยว่า “เสี่ยคราม” เป็นนักสะสมนาฬิกาหรือไม่
โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องวงในที่เข้าไม่ถึง
ประเด็นที่น่าสนใจที่ต้องหาคำตอบกันต่อไปคือ “เสี่ยคราม” ที่ว่าเป็นเจ้าของนาฬิกาทั้ง 20 กว่าเรือนที่ “บิ๊กป้อม” บอกว่ายืมเพื่อนมาใส่หรือไม่
ถ้า “เสี่ยคราม” เป็นเจ้าของแค่ส่วนหนึ่งแล้วส่วนที่เหลือเป็นของใคร
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือหลัง “เสี่ยคราม” เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ยังมีการหยิบยืมนาฬิกามาใส่อีกหรือไม่ หากยังมีใครเป็นผู้ให้หยิบยืม
ทั้งนี้ทราบว่าในคำชี้แจงที่ “บิ๊กป้อม” ส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ชี้แจงในทำนองนี้ จึงต้องดูว่าการเชิญบุตรของ “เสี่ยคราม” เข้าให้ข้อมูลจะยืนยันความเป็นเจ้าของนาฬิกาทั้งหมดที่ “บิ๊กป้อม” ยืมมาใส่หรือไม่
หากมองย้อนความน่าสนใจไปที่คำพูดของ “หม่อมอุ๋ย” ที่เชื่อว่าอีกไม่นาน “บิ๊กป้อม” จะลาออกเพราะทนต่อกระแสสังคมไม่ไหว
แม้ “บิ๊กป้อม” จะเผชิญต่อแรงกดดันมากขึ้นเมื่อสื่อต่างชาติหลายสำนัก หลายประเทศพากันเสนอข่าวเรื่องนี้ ซึ่งย่อมกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ความสง่างาม หากจะเป็นตัวแทนรัฐไทยไปเจรจา หรือทำข้อตกลงเรื่องต่างๆในอนาคต
แต่เชื่อว่าลึกๆแล้ว “หม่อมอุ๋ย” ก็ไม่ได้มั่นใจ 100 % ว่า “บิ๊กป้อม” จะลาออก
เพราะถ้ามั่นใจในตอนท้ายของคำให้สัมภาษณ์คงไม่ระบุว่า
“อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดู พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นตัวอย่าง สมัยท่านเป็นนายกรัฐมนตรี หาก รัฐมนตรีทำผิด ท่านจะดำเนินการ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นตัวอย่างที่ถูกต้อง ของประชาชน”
ถ้ามั่นใจในสปิริตของเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง “บิ๊กป้อม” ก็คงไม่ฝากประโยคนี้ไปถึงพล.อ.ประยุทธ์
You must be logged in to post a comment Login