วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ตูน’กับทรัพย์ที่ไม่พึงได้? / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

On January 25, 2018

คอลัมน์ : โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

ฉบับนี้ผมขอพูดเรื่องทรัพย์แต่เป็น “สังหาริมทรัพย์” หมายถึงประกาศสัมฤทธิบัตรหรือโล่ที่ “ตูน บอดี้สแลม” ได้รับจาก “บันทึกไทย” ว่าเป็นนักวิ่งคนแรกที่วิ่งจากเบตงถึงแม่สาย นี่คือกรณีศึกษาที่ใจต้องเที่ยงธรรม

อนุสนธิจากข่าวดราม่าที่บอกว่า ครูพลาม พรมจำปา นักวิ่งคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ (เมื่อปี 2548 และ 2558 ขณะที่นักวิ่งคนแรกคือ ครูไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร ปี 2529) กล่าวว่า ตูนหรือนายอาทิวราห์ คงมาลัย ไม่ใช่ฮีโร่คนแรก จนถูกแฟนๆของตูน “ถล่มเละ” ว่าครูพลามอิจฉาตูน จนกระทั่งเฟซบุ๊คของครูพลามถูก report จน “ปลิว” หายไปเลย

อันที่จริงครูพลามพูดถูกต้อง ตูนไม่ใช่ฮีโร่คนเดียว นี่ไม่ใช่คำอิจฉา แต่เป็นคำยกย่องว่าตูนเป็นฮีโร่ เพียงแต่มีคนวิ่งทำสถิติอย่างถูกต้องมาก่อนตูน จึงไม่ใช่เป็นฮีโร่เพียงคนเดียว แต่สื่อที่ไม่มีคุณภาพและโซเชียลมีเดียที่ปั้นน้ำเป็นตัวแทนที่จะคืนความเป็นธรรมให้ครูพลามและครูไชยวัฒน์ที่วิ่งมาก่อน กลับถล่มครูพลามอย่างไม่ยั้ง มีรายการต่างๆเชิญครูพลามไปถล่ม ครูพลามถือหนังสือที่ตนเคยเขียนไปแสดงก็กลับถูกแค่นถามว่าเอาหนังสือมาขายหรือ

บางคนโจมตีถึงขนาดว่าครูพลามพล่ามบ้าง เป็นบ้าบ้าง เพราะเอาโซ่มาคล้องคอ ข้อนี้ใครที่เคยดูรายการ “เป็นเรื่องเป็นข่าว” เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 ครูพลามก็คล้องโซ่มาออกรายการ เพราะเป็นเรื่องการฝึก วิญญูชนฟังคำวิพากษ์ครูพลามอย่างนี้ต้องมีใจที่มีปัญญามั่นคง ผมมองว่าเป็นแฟชั่นของแต่ละคนที่ควรมองข้าม เช่น ตูนก็มีรอยสักเต็มไปหมด ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เขาทำความดีก็ควรมองในแง่ดีมากกว่าเรื่องอื่น

ประเด็นอยู่ที่ตูนไปพูดในรายการเจาะใจเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ว่าอยากเป็นนักวิ่งคนแรก เพราะคงไม่ทราบว่ามีคนวิ่งมาก่อน จึงทำเรื่องไปที่บันทึกไทยเพื่อให้มาบันทึก ซึ่งตามระเบียบของบันทึกไทยต้องให้ผู้ขอจ่ายค่าธรรมเนียมและจัดหาเครื่องมือและอำนวยความสะดวกให้ตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตาม เรื่องบันทึกไทยให้รางวัลตูนนั้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานที่สมควร เพราะ

1.บันทึกไทยบอกว่าต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน 2 คนก่อนหน้านี้ก็กำหนดเป้าหมายชัดเจน คนแรกวิ่งเพื่ออาหารกลางวันเด็ก คนที่ 2 วิ่งเพื่อหาเงินช่วยทหาร-ตำรวจบาดเจ็บจากความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เป็นข่าวไปทั่ว พวกเขายังเก็บหลักฐานไว้

2.บันทึกไทยบอกว่าต้องวัดระยะจับเส้นทางด้วย GPS แต่สถิติระดับโลกหรือสถิติอื่นๆในเว็บ “บันทึกไทย” ก็ไม่เห็นต้องใช้ GPS เลย

3.บันทึกไทยบอกว่าต้องมีการเก็บหลักฐานด้วยภาพถ่าย วิดีโอ มีพยานบุคคลตลอดเส้นทาง ทั้ง 2 ท่านก็มีครบทุกอย่าง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องถึงขนาด FB Live กระมัง

การยกย่องตูนเป็นสิ่งที่สมควร แต่ก็ควรให้เกียรติอีก 2 ท่านที่ทำมาก่อนและมีหลักฐานชัดเจนด้วย รวมทั้งทีมคุ้มกันตูนอีกจำนวนหนึ่งที่วิ่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตูนเช่นกัน ที่ผ่านมาบันทึกไทยบันทึกว่าคนไทยคนหนึ่งเป็นคนแรกที่ขี่จักรยานข้ามทวีปเมื่อปี 2504 ไม่เห็นต้องใช้ GPS เลย แต่กรณีครูไชยวัฒน์วิ่งตั้งแต่ปี 2529 และครูพลามวิ่งปี 2548 และ 2558 แถมทำสถิติได้ดีกว่าตูนโดยไม่ต้องมีรถบ้านสุดหรู ไม่มีการประคบประหงมอย่างดี มีหลักฐานมากมาย บันทึกไทยกลับไม่นำพาหรืออย่างไร ผู้บริหารบันทึกไทยทำอย่างนี้เป็นการขาดมาตรฐานหรือไม่ ทำองค์กรเสียหายหรือไม่ บันทึกไทยอาจมอบโล่ใหม่ว่าเป็นคนแรกนับแต่มี (บริษัท) บันทึกไทย เป็นต้น

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาตอนแรกคนเข้าใจว่า “อเมริโก” เป็นคนแรกที่พากองเรือไปพบทวีปอเมริกา ตอนหลังรู้ความจริงจึงประกาศว่า “โคลัมบัส” ค้นพบก่อน หรือในปี 2503 มีคนขโมยทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ไป ตอนหลังรู้ความจริงจึงคืนไทยจากชิคาโก

ใครๆก็รู้ว่าครูไชยวัฒน์วิ่งจากเบตงถึงแม่สายเป็นคนแรก ต่อมาก็คือครูพลาม แถมวิ่งกลับอีกรอบ แต่กลับมีการมอบรางวัลให้ตูน ทั้งที่รู้ความจริงว่าไม่ใช่ตูน อย่างนี้ถือเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทำลายขวัญและกำลังใจและไม่ให้เกียรติผู้อื่นหรือไม่

ในการวิ่งแบบนี้ตูนก็คงได้รับการสนับสนุนจากรองเท้ายี่ห้อหนึ่ง มีกองคาราวานนับร้อยชีวิตคอยอำนวยความสะดวก วิ่งเสร็จได้ “บุญออนไลน์” งานเข้ามากมาย ได้กำรี้กำไร มีทรัพย์ศฤงคาร ชื่อเสียง ลาภสักการะ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่สมควรได้ แต่ “โล่” ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์นั้นไม่ควรได้ คืนไปจะสง่างามกว่าครับ จึงเรียนมาเพื่อสาธุชนโปรดพิจารณา

ป.ล. ไม่ได้อิจฉาตูน เพราะผมยอมรับและชื่นชมที่ตูนทั้งหล่อ หนุ่ม เก่งกว่าผมชัดเจน ไม่ได้อยากดัง เพราะถ้าอยากดังจริงคงไปเชียร์ตูน ใครจะอยากให้ถูกด่า แต่เพื่อความเป็นธรรมในสังคม เรื่องเล็กๆยังบิดเบือนได้ เรื่องใหญ่จะเหลือหรือ?


You must be logged in to post a comment Login