- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 24 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
‘ทรัมป์’ขอตุรกีลดรุนแรงซีเรีย
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/01/4755e.jpg)
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเรียกร้องกองทัพตุรกี “ลดความรุนแรง” ของปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นของนักรบเคิร์ดในภาคเหนือของซีเรีย ด้านรัฐบาลอังการายื่นคำขาดว่าอเมริกาต้องหยุดสนับสนุนกองกำลังนักรบเคิร์ดเท่านั้น
รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ว่าผู้นำสหรัฐเรียกร้องให้ผู้นำตุรกี “ลดระดับความรุนแรง” และ “จำกัดขอบเขต” ของปฏิบัติการทางทหารในเมืองอาฟริน ทางตอนเหนือของซีเรีย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดความสูญเสียแก่พลเรือน และทรัมป์ยังขอให้กองทัพตุรกีหลีกเลี่ยง “การกระทำใดก็ตาม” ที่อาจบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งด้านอาวุธระหว่างทหารของทั้งสองประเทศซึ่งประจำการอยู่ในเมืองอาฟรินและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียยุติการใช้สิทธิวีโต้ในการประชุมของสหประชาชาติในประเด็นที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีของซีเรีย ภายหลังจากที่มีรายงานว่า กองทัพของรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีในซีเรียอีกครั้ง
รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การที่รัสเซียไม่ยินยอมตามเสียงเรียกร้องให้มีการยุติการใช้อาวุธเคมีนั้น ก่อให้เกิดคำถามตามมาเกี่ยวกับความสามารถของรัสเซียในการมีส่วนร่วมเพื่อคลี่คลายวิกฤตที่เกิดขึ้นในซีเรีย
ทั้งนี้ มีรายงาน กองกำลังของรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนในการโจมตีครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนล้มป่วยลง และผู้ประสบเคราะห์จากเหตุดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเด็ก
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า เขาพร้อมช่วยปูทางให้ผู้อพยพเยาวชนภายใต้โครงการ “ดาก้า” มีโอกาสได้รับสัญชาติ “ภายใน 10-12 ปีข้างหน้า” แต่สภาคองเกรสต้องอนุมัติเงินค่าสร้างกำแพงเกือบ 8 แสนล้านบาท
โครงการผู้อพยพ “ดาก้า” ( DACA ) หรือ “ดรีมเมอร์ส” ซึ่งเป็นการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นการมอบความคุ้มครองเด็กและเยาวชนซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายระหว่างช่วงอายุ 6-16 ปี ด้วยการให้โอกาสศึกษาเล่าเรียน ได้รับสวัสดิการและมีสิทธิ์หางานทำในสหรัฐ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการและได้รับสิทธิประโยชน์แล้วราว 800,000 คนนั้น ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่าแกนนำของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในที่สุด
You must be logged in to post a comment Login