- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ฟืนท่อนใหญ่
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
สถานการณ์บ้านเมืองช่วงนี้หากติดตามความเห็นของบรรดาเหล่าเซเลบทางการเมืองไม่ว่าฝ่ายใด จะเห็นว่ามีความคิดอ่านไปในทิศทางเดียวกันคือให้จับตาสถานการณ์นับแต่วันนี้ถึงเดือนพฤษภาคมที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ ทั้งนี้เมื่อมองเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดเรื่องดังกล่าว ฟืนท่อนใหญ่ที่จะเป็นเชื้อน่าจะอยู่ที่รัฐสภาเพราะร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.การได้มาซึ่งส.ว.แม้จะผ่านมติ สนช.ไปแล้วยังมีช่องให้พลิกผันเพื่อยืดต่อโรดแม็พเลือกตั้งออกไปอีกได้
ไม่รู้ว่าเขามีข่าววงในหรือได้ข้อมูลเชิงลึกมาจากไหนกัน
แต่ทิศทางในการแสดงความเห็นของใครหลายคนที่อยู่ในสถานะที่พอจะรู้อะไรลึกๆมากกว่าประชาชนทั่วไปต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่าให้จับตาดูสถานการณ์บ้านเมืองจากวันนี้ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้
ส่วนเรื่องไม่คาดคิดที่ว่านั้นจะเป็นอะไรบอกตามตรงว่าไม่ทราบ
อย่างไรก็ดีหากดูตามเหตุปัจจัยที่จะนำไปสู่เรื่องไม่คาดคิดที่ว่ากันก็พอจะมีอยู่หลายเรื่อง
เรื่องใหญ่ที่สุดน่าจะอยู่ที่รัฐสภา
เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้วิชาตัวเบา ลอยตัวเหนือกำหนดการเลือกตั้ง
โยนให้เป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการออกกฎหมายลูกให้ครบทั้ง 10 ฉบับ โดยยกหลักการแบ่งแยกอำนาจไม่แทรกแซงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ
แม้คนทั่วไปจะไม่ค่อยเชื่อเพราะ สนช.มีรากเหง้ามาจาก คสช.ที่แต่งตั้งกันมา แต่เมื่อยกหลักการมาพูด ไม่ว่าจะเชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น
กล่าวคือจะมีเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ ก็ให้รอกฎหมายลูกออกมามีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการครบทั้ง 10 ฉบับก่อน จากนั้นให้นับไปอีก 150 วันก็จะมีการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
เผือกร้อนที่จะกำหนดทิศทางบ้านเมืองจึงถูกโยนมาไว้ในมือ สนช.
อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้มีร่างกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจาก สนช.ไปแล้ว 8 ฉบับ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ 7 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
ที่ผ่านมาการลงมติจากสนช.แล้วแต่รอการประกาศใช้อย่างเป็นทางการคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เพราะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณี สนช.ลงมติให้งดเว้นการบังคับใช้คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่ออุ้มให้กรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบันได้อยู่ทำหน้าที่ต่อจนครบวาระ 9 ปี
ที่ผ่านการลงมติจาก สนช.แล้วแต่ยังไม่ครบทุกขั้นตอนคือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังมีความพยายามยื้อเวลาพิจารณาให้ทอดยาวออกไป แม้ว่าจะลงมติให้ยืดเวลาการบังคับใช้ 90 วันไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
จากคำบอกเล่าของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า มีสนช.ติดต่อให้กกต.ทำความเห็นแย้ง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.ในประเด็นให้จัดมหรสพหาเสียงได้
ที่น่าสนใจคือสนช.ที่ล็อบบี้กกต.ให้ทำความเห็นแย้งนั้นอยู่ในกลุ่มที่แก้ไขร่างกฎหมายเพิ่มเติมให้จัดมหรสพประกอบการหาเสียงได้ ที่ต้องการให้กกต.เห็นแย้งเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย (สนช.-กกต.-กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.)
เพื่อยืดเวลาพิจารณาร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.ออกไปอีก 1 เดือน
แก้ไขเพิ่มเติมให้มีมหรสพเองโดยอ้างว่าพิจารณาอย่างเป็นธรรมรอบคอบแล้วเพื่อให้ประชาชนสนใจการปราศัยหาเสียงมากขึ้น กกต.เคยแสดงความเห็นคัดค้านก่อนลงมติแล้วแต่ไม่ฟัง เมื่อร่างพ.ร.ป.ผ่านความเห็นชอบ กลับล็อบบี้ให้กกต.เห็นแย้งเพื่อตั้งกรรมาธิการร่วมโดยบอกว่าจะแก้ไขให้กลับไปห้ามจัดมหรสพหาเสียง
กลับไปกลับมาด้วยเหตุผลอะไร เป็นเรื่องปรกติหรือไม่ ถามใจตัวเองดู
อีกฉบับคือร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่กรธ.แสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ สนช.แก้ไขโดยโดยเห็นว่าการแก้ไขส่อขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไปลดจำนวนตัวแทนสาขาอาชีพจาก 20 กลุ่มเหลือ 10 กลุ่มและให้ผู้สมัครมีที่มาได้ 2 ทางคือ อิสระ กับตัวแทนนิติบุคคล
กรณีนี้ต้องจับตาไปที่ กรธ.ว่าจะทำความเห็นแย้งเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อยืดเวลาพิจารณาออกไปอีก 1 เดือนหรือไม่ ถ้าตั้งคณะกรรมการธิการร่วมปรับแก้แล้ว สนช.จะเห็นชอบหรือจะคว่ำร่างพ.ร.ป.เพื่อไปเริ่มต้นยกร่างใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าหากต้องยกร่างใหม่จะทำให้โรดแม็พเลือกตั้งต้องยืดออกไปอีกหลายเดือน
เมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดอย่างที่บรรดาเหล่าเซเลบการเมืองพูดกัน การพิจารณาร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. น่าจะเป็นฟืนท่อนใหญ่ที่จะไปเป็นเชื้อให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดได้มากที่สุด
You must be logged in to post a comment Login