วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จีนโต้‘นิวเคลียร์’สหรัฐ

On February 6, 2018

จีนแถลงวิจารณ์ตอบโต้ต่อรายงานของรัฐบาลสหรัฐที่ระบุว่าจีนเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ฝ่ายตรงข้ามซึ่งอาจเป็นภัยได้ โดยจีนเรียกร้องให้สหรัฐลดคลังสรรพาวุธที่มีขนาดใหญ่กว่าและร่วมส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคแทน

กระทรวงกลาโหมจีนแถลงว่า คลังนิวเคลียร์ของจีนอยู่ในระดับน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นต่อความมั่นคง โดยยืนยันว่าไม่เคยคิดใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อนไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดก็ตาม ก่อนหน้านี้รายงานแผนยุทธศาสตร์นิวเคลียร์สหรัฐที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ระบุว่า สหรัฐต้องการป้องกันไม่ให้จีนใช้อาวุธนิวเคลียร์และจำกัดการถือครองนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามโฆษกกลาโหมจีนแถลงว่า จีนหวังว่าสหรัฐจะละทิ้งแนวคิดสมัยสงครามเย็น และร่วมรับผิดชอบด้วยการลดอาวุธนิวเคลียร์ที่ถือครองอยู่มากกว่าเช่นกัน สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์มรายงานว่า รัฐบาลจีนถือครองอาวุธนิวเคลียร์มากเป็นอันดับ 5 ของโลก ด้วยหัวรบนิวเคลียร์ 300 หัวรบ สหรัฐและรัสเซียมีเท่ากันที่ 7,000 หัวรบ ซึ่งมากกว่าจีนถึง 20 เท่า

นายแพทริค เอ็ม ชานาฮาน รัฐมนตรีช่วยกลาโหมสหรัฐ กล่าวถึง อาวุธนิวเคลียร์ ที่ใช้ปกป้องประเทศอยู่ในขณะนี้ว่า จะต้องมีการพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้านบก เรือ หรืออากาศ เนื่องจาก รัสเซียได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ไปอย่างรวดเร็วจนเกิดความกังวล

นายชานาฮาน ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้หันมาเผชิญกับความท้าทายจากรัสเซียและจีน หลังจากเอาชัยเหนือผู้ก่อการร้ายมุสลิมได้สำเร็จ ดังนั้นเพื่อทันกับการท้าทายจากทั้ง 2 ประเทศนี้ สหรัฐจะต้องพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ ที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานเคมีทางตะวันออกของจีน มีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 6 คน สื่อทางการจีนรายงานเหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์ที่โรงงานเคมีของบริษัทจินซานเคมิคัล ในเขตหลินซู มณฑลซานตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง โดยระบุว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นในระหว่างการซ่อมบำรุง สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวเจ้าของบริษัทดังกล่าวแล้ว และกำลังสอบสวนสาเหตุการระเบิดที่โรงงานในครั้งนี้


You must be logged in to post a comment Login