วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โนพร็อบเบล็ม

On February 7, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เห็นกระแสเริ่มแรง หากมองจากข้อเท็จจริงไม่ใช้ความรู้สึกต้องบอกว่าแทบไม่มีอะไร กลุ่มอำนาจยังมีความมั่นใจเต็มร้อยเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การทำโพล การล่ารายชื่อ หรือการชุมนุม นาทีนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ระคายผิว ไม่แคร์ เพราะตัวหลักระดับแม่เหล็กล้วนมีชนักติดหลังทำอะไรไม่ถนัด นักการเมืองก็สู้แต่ในที่ตั้งใช้แค่วาจาเป็นอาวุธ ส่วนนักวิชาการ นักกิจกรรม ก็มาวัดใจกันว่ากล้าพอหรือไม่ พร้อมหรือเปล่าที่จะหาเงินประกันตัว ถูกตั้งข้อหา เสี่ยงนอนคุก ทุกความเคลื่อนไหวยังมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรไปเขย่าฐานอำนาจได้

“เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน…” เนื้อเพลงที่แต่งเอง แต่มาฟังเองยังรู้สึกแสลงหู ต้องหันไปบอกกับเด็กๆที่มารอต้อนรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยการร้องเพลง “คืนความสุขให้คนในชาติ” ว่า เขาไม่ร้องกันแล้วเพลงนี้ ให้ร้องท่อนแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดระหว่างคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปสักการะโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ซึ่งเป็นโบสถ์อายุกว่า 100 ปี จ.จันทบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

ชั่วโมงนี้ไม่ต้องพูดเรื่องทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน สนใจเฉพาะแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมาเท่านั้น

“ไอ้ที่ผมกระฉับกระเฉงแบบนี้ เพราะต้องเร่งทำงาน เพราะหลายคนบอกขอเวลาอีกไม่นานแต่ตอนนี้ 3 ปีกว่าแล้ว แต่มันยังไม่เสร็จเลยยังต้องเดินหน้า ใครจะทำอะไรก็ทำไปแต่ผมจะวางรากฐานไว้ อย่าขัดแย้ง หลายอย่างเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขทั้งหมด ที่ผ่านมามันล่าช้า ผมโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง เพราะผมก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นมาตลอด เช่นเดียวกันกับทุกคน”

ประโยคขยายความว่าทำไมไม่ต้องพูดถึงทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน

แต่ประโยคที่น่าจะเป็นวรรคทองคือ

“วันนี้อย่ารักผมคนเดียวรักรองนายกรัฐมนตรีของผมด้วย วันนี้มาทั้ง ครม. ประยุทธ์คนเดียวอยู่ไม่ได้ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด ใครต้องออกไป ออกมามันวุ่นกันไปหมด ฉะนั้นต้องอยู่ด้วยกัน เพราะเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่น หากมีอะไรผิดพลาด บกพร่องไปต้องขอโทษด้วย ไม่มีเจตนาเพื่ออะไรทั้งสิ้น อย่ามาบอกว่าสืบทอดอำนาจ เพราะอำนาจอยู่ที่ประชาชน ไปเลือกเข้ามาเอง เลือกคนดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง”

แม้ไม่ได้เจาะจงว่าให้ประชาชนรักรองนายกรัฐมนตรีคนไหน แต่ที่กำลังเผชิญมรสุมหนักสุดก็มีอยู่คนเดียวคือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

“บิ๊กตู่” ย้ำ ประยุทธ์คนเดียวอยู่ไม่ได้ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด

“บิ๊กป้อม” ให้ลูกน้องออกมาแถลงว่ายังมีกำลังใจดี ไม่ลาออก

อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลสอบนาฬิกาหรูของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ผลสอบเบื้องต้นจะออกมาช่วงสิ้นเดือนนี้

ถ้าผลออกมาเป็นบวกก็อยู่โยงกันต่อไปแบบยาวๆ แต่ถ้าผลผิดคาดจากนี้ก็คงต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

คำตอบสุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับผลสอบของป.ป.ช.เป็นสำคัญว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

ส่วนการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการทำโพล การล่ารายชื่อ หรือการชุมนุมกดดัน นาทีบอกได้คำเดียวว่าไม่ระคายผิว ไม่แคร์

หากแคร์กับกระแสสังคม และความเคลื่อนไหว คงไม่มีสัญญาณออกมาในทำนองให้บังคับใช้กฎหมาย 100% กับทุกกลุ่มที่เคลื่อนไหว ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มที่ออกมาชุมนุมให้การสนับสนุน

ทั้งนี้เพื่อตัดข้อครหาเลือกปฏิบัติ สองมาตรฐาน

ใครล้ำเส้นเคลื่อนไหวรอหมายเรียก เตรียมหาเงินประกันตัวเอาไว้ได้เลย

ไม่กลัวอำนาจเป็นพิษ เมื่อมีอำนาจต้องใช้อำนาจเต็มที่ ที่เหลือก็วัดใจฝ่ายต้านดูว่ากล้าพอหรือไม่ พร้อมหรือเปล่าที่จะมีคดีความติดตัวต้องขึ้นโรงพัก ขึ้นศาล เสี่ยงนอนคุก

ที่สำคัญกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีพาวเวอร์อะไรมาก ไม่ใช่แกนนำระดับแม่เหล็กที่จะมีแม่ยกคอยแห่ตาม พวกแกนนำระดับแม่เหล็กส่วนมากก็มีชนักติดหลังไม่มีใครกล้ามาเดินนำให้เสี่ยงต่อถูกถอนประกันตัว

พวกนักการเมืองไม่ต้องไปตั้งความหวัง พวกนี้สู้ในที่ตั้ง มีแค่คำแถลง คำประณาม

อาจจะทำให้รำคาญบ้าง เสียภาพลักษณ์บ้าง แต่ไม่ถึงกับทำให้ตาย

ไม่สะเทือนฐานอำนาจในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน


You must be logged in to post a comment Login