แปลกแต่จริง! / โดย นายหัวดี

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

ขณะที่ประชาชนออกมาทวงสัญญา “การเลือกตั้ง” กลับโดนแจ้งข้อหาต่างๆ แต่กรณี  “นาฬิกาเพื่อนให้ยืม” แม้จะไม่ใช่การทุจริตคอรรัปชัน แต่ก็เป็นเรื่อง “จริยธรรม” ที่ “ทั่นผู้นำ” โอ้อวดว่าตัวเองและพวกพ้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง “ไม่โกงแม้สลึงเดียว” เสียสละและเสี่ยงตายเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง

ขณะที่โพลจากสำนักโพลต่างๆและโพลเฉพาะกิจ คนส่วนใหญ่เกือบ 100% ล้วนต้องการให้ “พี่ใหญ่” แสดงสปิริต “ลาออก” และไม่เชื่อมั่น “ป.ป.ช.” เพราะกลัวการจะกลายเป็น “องค์กรฟอกขาว”

จึงไม่แปลกที่เกือบ 4 ปีภายใต้อำนาจรัฐประหาร ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันก็ยังเป็นปัญหาของประเทศและแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นเลย ซึ่งผลสำรวจของ “หอการค้าไทย” ระบุชัดเจนว่าดัชนีคอร์รัปชันย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2556 จนถึง 2560 แย่ลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มคอร์รัปชันปีนี้ก็ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นตามการจัดซื้อจัดจ้างโครงการรัฐที่เพิ่มขึ้น โดยมีการเปิดเผยว่าผู้ประกอบการ 24% ยอมจ่ายใต้โต๊ะในอัตราเฉลี่ย 5-15% ของมูลค่าโครงการ คือยิ่งมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากก็ยิ่งเปิดช่องให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน

การเข้าแถวประกาศจะปราบโกงให้สิ้นซากและไม่อยู่ร่วมกับคนโกงของ “ทั่นผู้นำ” และองค์กรต่างๆ จึงเหมือนเล่น “ปาหี่” มากกว่า  โดยเฉพาะกรณี “คนใกล้ชิด” ที่เป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกยังกอดกันแน่น!

You must be logged in to post a comment Login