- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
เร่งตัดเงื่อนไข

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การเมืองที่เริ่มเพิ่มดีกรีความร้อนตามอุณหภูมิทำให้ฝ่ายคุมอำนาจต้องรีบออกมาตัดเงื่อนไขสกัดการสร้างความรู้สึกร่วมอยากเลือกตั้ง ทางหนึ่งตัดความเคลื่อนไหวบนท้องถนนด้วยการแจ้งดำเนินคดีกับทุกคนไม่ว่าจะแกนนำหรือแนวร่วม ทางหนึ่งให้คำยืนยันเรื่องกฎหมายลูกว่าแม้จะถูกคว่ำก็ร่างใหม่ได้และใช้เวลาไม่นาน ให้อดใจรอไม่เกินเดือนมิถุนายนก็จะประกาศวันเลือกตั้งได้
ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาสภาพไฟสุมขอนเอาไว้รอโหม ฝ่ายหนึ่งเร่งตัดไฟต้นลมไม่ให้เหลือเงื่อนไขใช้เคลื่อนไหวต่อต้าน ไฟกองนี้จะดับสนิท หรือว่าจะลุกโชนขึ้นมาอีกไม่นานคงได้รู้กัน
รอเก้อ!
จากที่ทำท่าขึงขังจริงจังว่าการสอบที่มาที่ไปนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาขยับเส้นตายผลสอบออกไปเพราะ “บิ๊กป้อม” ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจง โดยอ้างมีภารกิจติดงานต่อเนื่องและมีเอกสารที่ต้องรวบรวมอีกมาก
นับเป็นครั้งที่สองที่ “บิ๊กป้อม” ขอยืดเวลาส่งคำชี้แจง และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำได้ตามระเบียบของ ป.ป.ช. เมื่อครบกำหนดอีกครั้งในวันที่ 2 มีนาคม หากยังไม่ส่งคำชี้แจงก็จะถือว่าสละสิทธิในการให้ข้อมูล
เมื่อนับนิ้วแล้วเรื่องนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” น่าจะรู้ผลได้พอๆกับความชัดเจนของร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) 2 ฉบับสุดท้าย คือร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
เดือนมีนาคมที่เข้าสู่ฤดูร้อนแล้วก็คงทำให้การเมืองร้อนฉ่าขึ้น หากผลออกไปในทิศทางไม่ผิด และคว่ำร่างกฎหมายลูก
อย่างไรก็ตามกลุ่มอำนาจมองเรื่องนี้ออกถึงพยายามพรมน้ำไม่ให้ไฟที่สุมขอนอยู่เกิดการปะทุขึ้นมาเป็นเปลวไฟ
น้ำขันแรกถูกสาดลงไปที่กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งด้วยการแจ้งดำเนินคดีกราวรูดกับทั้งแกนนำและแนวร่วมที่ชุมนุมกันเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
แกนนำถูกแจ้งความดำเนินคดี 6 คน ผู้ร่วมชุมนุมถูกแจ้งความดำเนินคดี 43 คน กวาดเรียบไม่ให้เหลือออกมาเคลื่อนไหวได้อีก
หากจะมีการเคลื่อนไหวอีกก็ต้องหาแกนนำใหม่เพราะกลุ่มเดิมมีชนักติดหลังแล้ว ถ้ายังออกมานำอีกก็มีแต่จะเพิ่มคดีให้ตัวเอง
ส่วนมวลชนเมื่อเห็นการเชือดไก่ให้ลิงดูแบบนี้น่าจะลดความฮึกเหิมลง ลดการรวมตัวในที่แจ้ง หันไปเคลื่อนไหวเรียกความรู้สึกร่วมในเครือข่ายสังคมออนไลน์แทน
แนวรบบนท้องถนนของกลุ่มอำนาจน่าจะเบาบางลง
อีกทางหนึ่งการสร้างอารมณ์ร่วมเรียกร้องเลือกตั้ง ก็ถูกสกัดด้วยการออกมายืนยันของเนติบริการอย่าง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ทำนองว่าไม่เป็นห่วงเรื่องกฎหมายลูกถูกคว่ำ เพราถึงถูกคว่ำก็ร่างใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
แม้จะมีคนมองว่าหากกฎหมายลูกถูกคว่ำจะทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อวีซ่านั่งทับอำนาจออกไปได้อีกยาวๆ 1-2 ปี เพราะต้องไปแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกำหนดที่มาของคนที่จะมารับหน้าที่ยกร่างกฎหมายลูกที่ถูกคว่ำใหม่
แต่นายวิษณุ ให้มองอีกมุมหนึ่งว่าเมื่อรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าหากเกิดกรณีกฎหมายลูกถูกคว่ำต้องให้ใครเป็นคนร่างกฎหมายใหม่
ต้องโค้ดคำพูดขีดเส้นใต้ไว้ตัวโตๆคือประโยคที่ว่า “ใครก็ได้ เพราะไม่มีการเขียนล็อคเอาไว้ ว่าเป็นหน้าที่ของใคร ตั้งขึ้นมาใหม่ก็ได้ หรือให้ กรธ.ชุดเดิมทำหน้าที่ก็ได้ ถ้าจะให้ง่าย ก็ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ทำหน้าที่ เพราะ กรธ.บอกว่าทำ 2 วันก็เสร็จ”
เป็นคำพูดที่ตัดเงื่อนไขให้เอาไปใช้โจมตีว่าคว่ำกฎหมายลูกเพื่อยื้ออำนาจ
ยิ่งไปกว่านั้นนายวิษณุ ยังคาดการณ์ด้วยว่ากฎหมายลูกน่าจะมีผลบังคับใช้ครบทั้ง 10 ฉบับภายในเดือนมิถุนายนนี้ เมื่อกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ครบแล้วก็จะสามารถประกาศกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนได้
ทางหนึ่งเชือดไก่ให้ลิงดูแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนเพื่อตัดความเคลื่อนไหวบนท้องถนน ทางหนึ่งให้คำยืนยันเรื่องกฎหมายลูกเพื่อตัดเงื่อนไขใช้ปลุกระดมต่อต้าน
ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาสภาพไฟสุมขอนเอาไว้รอโหม
ฝ่ายหนึ่งเร่งตัดไฟต้นลมไม่ให้เหลือเงื่อนไขใช้เคลื่อนไหวต่อต้าน
ไฟกองนี้จะดับสนิท หรือว่าจะลุกโชนขึ้นมาอีกไม่นานคงได้รู้กัน
You must be logged in to post a comment Login