วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ย้ายเมืองหลวงหนีหนี้ / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On February 26, 2018

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

ทหารกว่า 400 คนบุกเข้าโอบล้อมอาคารรัฐสภาเรียกร้องให้จ่ายเงินเดือนตกเบิก รัฐบาลร้องขอกำลังทหารมาปกป้องแต่ถูกสภาบริหารสูงสุดปฏิเสธ แม้ว่าสุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะผ่านพ้นไปโดยดี แต่หวั่นเกรงว่าภายภาคหน้าอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก สมาชิกสภาคองเกรสจึงลงมติย้ายเมืองหลวง

หลังจากที่อเมริกามีชัยชนะในสงครามปฏิวัติอเมริกา ประกาศอิสรภาพแยกตัวออกจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษเมื่อปี 1783 อเมริกาก็ใช้เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เป็นเมืองหลวง ศึกภายนอกยุติลง แต่ศึกภายในเพิ่งจะเริ่มขึ้น

สงครามปฏิวัติอเมริกากินเวลายาวนานกว่า 8 ปี ทหารจำนวนมากต่อสู้โดยไม่ได้รับเงินเดือน กฎหมายสหพันธรัฐถูกนำมาใช้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ให้อำนาจสมาชิกสภาสร้างกองกำลังทหารและประกาศสงคราม แต่ไม่มีอำนาจในการจัดเก็บภาษี

เมื่อไม่สามารถเรียกเก็บภาษีได้รัฐบาลก็ไม่มีเงิน เมื่อไม่มีเงินก็ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนตกเบิกให้กับทหารได้ รัฐเพนซิลเวเนียเองก็ถังแตกเพราะใช้เงินทั้งหมดที่มีไปกับการทำสงครามปฏิวัติอเมริกา

สู้ด้วยใจ

สงครามปฏิวัติอเมริกาปะทุขึ้นในปี 1775 ทหารส่วนใหญ่กินและใช้ด้วยทรัพย์สินส่วนตัว พวกเขายอมต่อสู้เพราะต้องการปลดแอกจากการปกครองของอังกฤษ นายพลจอร์จ วอชิงตัน เขียนบันทึกไว้เมื่อปี 1777 ระบุว่า ทหาร 2,873 คนไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้รบได้เพราะพวกเขากินไม่เพียงพอ บางคนไม่มีรองเท้าหรือไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้าจะสวมใส่

รัฐบาลได้แต่เพียงให้คำมั่นสัญญาว่าจะจ่ายเงินเดือนให้ครบเต็มจำนวนหลังจากที่มีชัยชนะ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือการออกเอกสาร IOU หรือเอกสารสัญญาว่าจะชดใช้เงินคืนให้เต็มจำนวน แจกจ่ายให้กับทหารที่ยังไม่ได้รับเงินเดือน

วันที่ 19 มิถุนายน 1783 ทหาร 80 คนจากเมืองแลงคาสเตอร์ เดินเท้าระยะทาง 60 ไมล์ มุ่งหน้าสู่เมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอเมริกาในเวลานั้น เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินตกเบิก เพราะพวกเขาไม่มีเงินจะซื้อข้าวแล้ว

ระหว่างทางก็มีทหารหน่วยอื่นๆร่วมสมทบ ทำให้ทหารเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 400 คน ขณะที่สภาคองเกรสไม่มีกองกำลังของตนเอง หลังจากที่สงครามปฏิวัติอเมริกาสิ้นสุดลง ทหารทั้งหมดก็แยกย้ายกลับกรมกองในรัฐของตนเอง สมาชิกสภาจึงถูกโอบล้อมโดยไม่มีกองกำลังป้องกัน

จะตายแล้วค่อยช่วย

อเล็กซานเดอร์ ฮามิลตัน วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก ร้องขอให้สภาบริหารสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนียนำกองกำลังทหารมาปกป้องสมาชิกสภาคองเกรส แต่กลับถูกปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่ายังไม่เกิดเหตุรุนแรง ถ้ามีการใช้กำลังเมื่อไรจึงจะนำทหารมาช่วย

เมื่อถูกปฏิเสธมาเช่นนั้น อเล็กซานเดอร์ก็ขอให้พันเอกวิลเลี่ยม แจ๊กสัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสงคราม ไปดักรอเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงที่ชานเมือง แต่กลุ่มผู้ประท้วงเดินผ่านผู้พันวิลเลี่ยมเข้าเมืองโดยไม่สนใจจะเจรจาด้วย

เมื่อเดินทางถึงอาคารรัฐสภา กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสออกมาพบภายใน 20 นาที ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะสะสางปัญหาด้วยตนเอง แม้จะถูกขู่ด้วยกองกำลังจำนวนมากที่สามารถโค่นล้มสภาคองเกรสได้ไม่ยากนัก แต่บรรดาสมาชิกสภาก็ทำเป็นไม่สนใจและยังคงประชุมสภากันตามปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากเสร็จงานสมาชิกสภาก็กลับบ้านโดยเดินฝ่ากลุ่มทหารที่ปิดล้อมโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ต่อมาในคืนนั้นสภาชิกสภาตามไปรวมกันที่บ้านประธานสภา เอเลียส เบนวา ลงมติให้ยื่นคำขาดกับสภาบริหารสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนียนำกองกำลังทหารมาปกป้อง มิฉะนั้นพวกเขาจะย้ายเมืองหลวงออกจากฟิลาเดลเฟีย

ไปแล้วไปลับ

เช้าวันรุ่งขึ้นอเล็กซานเดอร์และสมาชิกสภาเดินทางไปพบโอลิเวอร์ เอลส์เวิร์ธ ประธานสภาบริหารสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนีย แต่โอลิเวอร์ก็ยังยืนกรานไม่ส่งทหารมาปกป้อง เพราะตัวเขาเองเห็นใจทหารที่ยังไม่ได้รับเงินเดือน อีกทั้งพวกเขาเป็นพี่น้องชาวรัฐเพนซิลเวเนีย ทหารของเขาคงไม่ยิงคนบ้านเดียวกัน

เมื่อได้คำตอบเช่นนั้นสมาชิกสภาคองเกรสก็ย้ายออกไปทำงานที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะย้ายอีกครั้งไปยังเมืองแอนแนโพลิส รัฐแมริแลนด์ จนถึงปี 1785 ก็ย้ายอีกครั้งไปยังเมืองนิวยอร์ก อยู่ที่นี่จนถึงเดือนมิถุนายน 1788 ถึงตอนนี้ร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นรูปเป็นร่างและเพิ่มอำนาจสภาคองเกรสในการเรียกเก็บภาษี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีการเพิ่มมาตรากฎหมายให้สมาชิกสภาคองเกรสมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการออกกฎหมายพิเศษเพื่อใช้บังคับในขอบเขตพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางไมล์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ สมาชิกสภาคองเกรสมีอำนาจบริหารสูงสุดเหนือการบริหารของสภารัฐในขอบเขตพื้นที่ 100 ตารางไมล์

พื้นที่ 100 ตารางไมล์ที่ว่าจะเป็นที่ไหน มีตัวเลือกหลักๆอยู่ 3 แห่งคือ เมืองหลวงเก่าฟิลาเดลเฟีย หรือไม่ก็บอสตัน หรือไม่ก็นิวยอร์ก เพราะล้วนเป็นเมืองใหญ่ การจะสร้างเมืองหลวงใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรัฐบาลยังมีหนี้สินมหาศาลจากการทำสงครามปฏิวัติอเมริกา

สร้างบ้านแปงเมือง

เดือนมิถุนายน 1790 โทมัส เจฟเฟอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เชิญอเล็กซานเดอร์ ฮามิลตัน และเจมส์ เมดิสัน มาปรึกษากันว่าจะสร้างเมืองหลวงใหม่ที่ไหนดี ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเมืองหลวงใหม่ควรสร้างขึ้นมาใหม่และตั้งอยู่ริมแม่น้ำโพโตแมก ช่วงรอยต่อระหว่างรัฐแมริแลนด์กับเวอร์จิเนีย

เมืองหลวงใหม่ตั้งชื่อว่า วอชิงตัน เพื่อเป็นเกียรติกับจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา ส่วนขอบเขตในรัศมี 100 ตารางไมล์ เรียกว่าตำบลโคลัมเบีย ซึ่งนำมารวมกันคือชื่อเต็มว่า Washington, District of Columbia หรือเขียนย่อๆว่า Washington, D.C.

เมืองหลวงใหม่คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 1800 ระหว่างก่อสร้างก็กลับไปใช้เมืองฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองหลวงไปพลางๆก่อน แต่แล้วในปี 1793 เกิดโรคไข้เหลืองระบาดในเมืองฟิลาเดลเฟีย 1 ใน 10 ของประชากรล้มตายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ที่เหลือ 2 ใน 3 อพยพหนีออกจากเมือง ทำให้ฟิลาเดลเฟียกลายเป็นเมืองร้าง

สภาคองเกรสย้ายหนีไปที่เมืองเยอรมันทาวน์ หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่ภาวะปรกติพักใหญ่ๆ แต่แล้วในปี 1797-1799 ไข้เหลืองก็กลับมาระบาดอีก โดยตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร มาถึงตอนนี้ชักจะไม่ไหวแล้ว รัฐบาลตัดสินใจย้ายถาวรไปกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทั้งๆที่ยังสร้างไม่เสร็จ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเสี่ยงติดโรคระบาดในเมืองฟิลาเดลเฟีย และปักหลักอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน และคงอยู่ที่นี่ไปอีกนานหรืออาจจะตลอดไป ส่วนเงินตกเบิกทหารรัฐบาลตามไปใช้หนี้จนหมดสิ้น


You must be logged in to post a comment Login