วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ก่อนโดนเสือกัด

On March 1, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

อยู่ๆเบอร์หนึ่งเบอร์สองขั้วอำนาจปัจจุบันก็ออกมายืนยันเสียงแข็งว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แน่นอน ไม่มีคว่ำกฎหมายลูก ไม่มีสุญญากาศในกกต. ทำให้น่าสนใจว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องออกมาพูดผูกมัดชนิดจะเบี้ยวอีกไม่ได้ มองผิวเผินอาจคิดได้ว่าเพื่อสยบความเคลื่อนไหวกลุ่มเรียกร้องเลือกตั้ง ที่ทำท่าว่าจะจุดไฟติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความรู้สึกร่วมของคนในรุ่นเดียวกันตามรั้วมหาวิทยาลัย แต่อีกทางหนึ่งน่าจะเป็นเพราะอยากลงจากหลังเสือก่อนโดนเสือกัดเพราะมีหลายเรื่องฉุดความศรัทธาตกต่ำ ความชอบธรรมหดหาย ส่วนจะได้กลับมาเป็นครองอำนาจหลังเลือกตั้งหรือไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต

ส่งสัญญาณเหมือนอยากลงจากอำนาจกันเต็มแก่

ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ยืนยัน (เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้) ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“ตอนนี้ผมตอบชัดเจนแล้วนะ การเลือกตั้งไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 จะเอาอะไรกันอีก” คือคำกล่าวของนายกฯ

นอกจากนี้ยังให้คำมั่นด้วยว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) 2 ฉบับ คือร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่กำลังมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายพิจารณากันอยู่นั้นจะไม่ถูกคว่ำกลางสภา

“หลังจาก พ.ร.ป.ส.ส.-ส.ว.จะเสร็จราวเดือนมี.ค.จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงพิจารณาประมาณ 3 เดือน จะออกมาประมาณมิ.ย.เมื่อถึงเวลานั้นจะมีการประชุมหารือกัน ทั้งในแม่น้ำ 4 สาย 5 สาย รวมถึงพรรคการเมืองด้วยเพื่อหารือกันว่าตามกติกาควรกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อไหร่อย่างไร ทั้งนี้ ทั้งนั้นอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดคือ ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 62 เพราะได้มีการเลื่อนไปจากเดิม 90 วันหรือ 3 เดือนตาม พ.ร.ป.ที่มีผลบังคับใช้ก็แค่นั้น”

เป็นอีกหนึ่งคำยืนยันจากปากนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่กังวลกันว่าจะเลือกตั้งไม่ได้เพราะอาจเกิดสุญญากาศในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกฯก็ยืนยันว่าจะไม่มีสุญญากาศในกกต. หากสรรหาชุดใหม่ทันก็ให้ชุดใหม่จัดเลือกตั้งหากสรรหาได้ไม่ทันให้ชุดเก่าทำหน้าที่

เรื่องสุญญากาศในกกต.จนไม่มีคนจัดเลือกตั้งถือว่าหายห่วง เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวออกมาว่าอาจใช้อำนาจมาตรา 44 ต่อวีซ่าให้เลขาธิการกกต.ที่หมดวาระอยู่ทำหน้าที่ไปก่อนเพื่อตัดปัญหา หรือหากมีกกต.ลาออกก็พร้อมใช้มาตรา 44 ตั้งคนไปทำหน้าที่แทนชั่วคราวได้

คำยืนยันของนายกรัฐมนตรีสอดคล้องกับคำยืนยันที่ชัดเจนแทบจะเป็นครั้งแรกๆที่ออกมาจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ว่า

“เราจะดูแลสถานการณ์ให้มีความสงบเรียบร้อย เพื่อที่จะได้มีการเลือกตั้ง จะไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบอยากเลือกตั้งนั้น ก็คิดว่าจะมาชุมนุมกันทำไม เพราะเราจะเลือกตั้งอยู่แล้ว”

ทั้งเบอร์หนึ่งและเบอร์สองของขั้วอำนาจปัจจุบันต่างออกมายืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าการเลื่อนเลือกตั้งรอบนี้เป็นเที่ยวสุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าได้เลือกตั้งกันตามกำหนดแน่

น่าสนใจคืออะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เบอร์หนึ่งและเบอร์สองของขั้วอำนาจปัจจุบันออกมายืนยันอย่างชัดเจน

มองผิวเผินอาจคิดได้ว่าเพื่อสยบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเรียกร้องเลือกตั้ง ที่ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ แต่ทำท่าว่าจะจุดไฟติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความรู้สึกร่วมของคนในรุ่นเดียวกันตามรั้วมหาวิทยาลัยต่างๆที่ใช้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตามการที่ออกมาพูดแบบผูกมัดตัวเองชนิดจะใช้เทคนิคกฎหมายหรือลูกเล่นเบี้ยวอีกไม่ได้แล้วย่อมน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น

ในความมากกว่าต้องการเขี่ยฟืนออกจากกองไฟ ไม่ให้การเคลื่อนไหวเรียกร้องเลือกตั้งขยายวง จนผสมโรงเป็นการขับไล่รัฐบาลด้วยการนำเรื่องในทางลบตอกย้ำกับสังคม น่าจะมาจากส่วนหนึ่งในความคิดที่แว่บขึ้นมาว่าอยากลงอย่างสวยงาม มากกว่าจบแบบมีมลทินติดตัว

เรื่องจะได้กลับมาเป็นครองอำนาจคำรบสองหลังเลือกตั้งหรือไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต นาทีขอลงจากหลังเสือโดยไม่มีบาดแผลถูกเสือกัดก่อน

ส่วนจะมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เลื่อนเลือกตั้งได้ หากกลับคำเลื่อนอีกลุกเป็นไฟแน่


You must be logged in to post a comment Login