วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’ยกระดับสงครามการค้า

On March 6, 2018

ผู้นำสหรัฐยกระดับสงครามการค้าอีกขั้น ด้วยการจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป หลังประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมครั้งใหญ่ไปก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ หลังประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมครั้งใหญ่ ล่าสุดทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป หากสหภาพยุโรป (อียู) หากยังเดินหน้าตั้งกำแพงภาษีกับบริษัทของสหรัฐที่ทำธุรกิจในยุโรปต่อไป ทรัมป์บอกก่อนหน้านี้ด้วยว่า การทำสงครามการค้าเป็นสิ่งที่ดีและเขาจะชนะมันอย่างง่ายดาย ด้านนายฌอง โคล้ด ยุงเกอร์ หัวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรป ตอบโต้ว่า หากสหรัฐบังคับใช้มาตรการภาษีจริงอย่างที่ ทรัมป์ ประกาศออกมา  สหภาพยุโรปก็ไม่มีทางเลือก นอกจากใช้มาตรการตอบโต้กลับไป ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐร้อยละ 25 ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน วิสกี้ เบอร์เบิน และกางเกงยีนส์ลีวายส์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า จะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และร้อยละ 10 สำหรับภาษีนำเข้าอลูมิเนียม โดยอ้างว่า การผลิตเหล็กและอลูมิเนียมที่ล้นตลาดในจีน ทำให้ราคาเหล็กและอลูมิเนียมในตลาดโลกตกต่ำ เป็นผลให้สินค้าราคาถูกหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐ

นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่า เขาจะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐ ถึงแนวโน้มที่จะมาร่วมในพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ที่นครเยรูซาเลมในเดือนพฤษภาคมนี้

นายเนทันยาฮู กล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อค่ำวันเสาร์ก่อนออกเดินทางโดยเครื่องบินไปสหรัฐว่า เขาจะหารือถึงความเป็นไปได้ว่าจะเชิญผู้นำสหรัฐมาร่วมในพิธีเปิดสถานทูตแห่งใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้การรับรองสถานะเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และสั่งย้ายสถานทูตสหรัฐมาเยรูซาเลมในวันชาติอิสราเอล 14  พฤษภาคม คำประกาศรับรองเยรูซาเลมของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อ 6 ธันวาคม ก่อให้เกิดกระแสโกรธแค้นในหมู่ชาวปาเลสไตน์ และถือเป็นการละเมิดข้อปฏิบัติระหว่างประเทศที่ยึดถือมานานหลายสิบปีว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องสถานะเยรูซาเลมโดยให้อิสราเอลและปาเลสไตน์เจรจากันเอง ขณะที่ประเทศอื่นๆยังคงสถานทูตไว้ในกรุงเทลอาวีฟ


You must be logged in to post a comment Login