มาตรา44อีกครั้ง

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

แม้ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.การได้มาซึ่งส.ว.จะผ่านความเห็นชอบจาก สนช.และมีแนวโน้มจะไม่มีการยื่นตีความเพื่อยื้อเวลาอีก แต่การไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินการทุกอย่างให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กฎหมายพรรคการเมืองใหม่กำหนดอาจทำให้เกิดปัญหา ถ้ายึดตามผู้มีอำนาจเคยพูดไว้ว่าจะปลดล็อกหลังกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ครบทุกฉบับแล้ว หมายความว่าต้องรอไปอีกอย่างน้อย 6 เดือนกว่าที่ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้เป็นฉบับสุดท้าย ปัญหาที่จะตามมาคือความไม่พร้อมในการส่งผู้สมัครส.ส.ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่ ถ้าจะให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม เป็นไปได้ว่าสุดท้ายอาจต้องใช้อำนาจพิเศษมาตรา 44 มาแก้ปัญหาอีกครั้ง

หลังร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วยเสียงสนับสนุนท่วมท้นและมีแนวโน้มว่าจะไม่มีการเข้าชื่อกันเพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นที่เห็นว่าเป็นปัญหาทำให้เกิดสภาวะฟ้าเปิดสำหรับการเมืองไทยหลังจากที่อึมครึมมานาน

“จนถึงขณะนี้ ผมยังมั่นใจว่า ไม่มีอะไรมากระทบโรดแม็พเลือกตั้งได้ ซึ่งก็เหมือนที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เคยบอกว่า จะส่งหรือไม่ส่งให้ศาลตีความ มันก็เป็นเพียงโรดแม็พเล็กที่อยู่ในโรดแม็พใหญ่ เพราะฉะนั้นมันไม่เกินโรดแม็พใหญ่ไปได้แน่นอน”

เป็นคำกล่าวยืนยันของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ใช่เบอร์หนึ่งของรัฐบาล แต่ก็น่าจะพอให้มองเห็นทิศทางการเมืองได้ชัดเจนขึ้นพอสมควร

อย่างไรก็ตามหากเกิดการผิดคิวมี สนช.เข้าชื่อกันเกินกว่า 25 คนยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความก็คาดกันว่าผลจะออกมาใน 1 เดือน หากชี้ว่าไม่ขัดทุกอย่างก็เดินหน้าต่อตามโรดแม็พ แต่หากชี้ว่าขัดก็ไปปรับแก้เฉพาะมาตราที่เป็นปัญหาซึ่งใช้เวลาไม่นาน

สรุปเรด้าห์ยังตรวจไม่พบสัญญาณว่าจะมีการล้มหรือเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกในตอนนี้

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีเรื่องให้เป็นกังวลเรื่องการจัดเลือกตั้งตามโรดแม็พ แต่กลับมีส่วนที่น่ากังวลจากความไม่พร้อมของฝ่ายการเมืองเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นเหตุความไม่พร้อมส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่ยอมปลดล็อกยกเลิกประกาศคำสั่งของคสช.ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองทันทีหลังจากที่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ทำให้เสียเวลา 5 เดือนกว่าไปฟรีๆ โดยที่พรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการอะไรให้เป็นไปตามที่พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดเอาไว้ได้

สิ่งที่พรรคการเมืองต้องทำตามกฎหมายใหม่ เช่น การยืนยันตัวตนของสมาชิกพรรค การเรียกเก็บเงินบำรุงพรรคจากสมาชิกชุดแรกให้ได้ไม่น้อยกว่า 500 คน และเก็บให้ครบ 5,000 คนภายใน 1 ปี พรรคไหนมีสมาชิกไม่ถึง 500 คนต้องหาให้ครบภายกำหนด

การจัดหาทุนประเดิมพรรค 1,000,000 บาท การจัดทำข้อบังคับพรรค ทำคำประกาศอุดมการณ์พรรค จัดทำนโยบายพรรค เลือกคณะผู้บริหารพรรค เลือกหัวหน้าสาขาพรรคอย่างน้อย 4 สาขา จัดตั้งสาขาพรรคอย่างน้อยภาคละ 1 แห่ง ต้องมีสมาชิกในเขตสาขานั้นๆไม่น้อยกว่า 500 คน จัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัดที่ไม่มีสาขา หรือสำนักงานพรรคตั้งอยู่เพื่อจัดทำไพรมารี่โหวตหาตัวแทนพรรคลงสมัครเลือกตั้ง ฯลฯ

ทั้งที่เงื่อนเวลาที่พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามที่พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดได้หมดลงไปแล้ว แต่หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินการเพื่อไม่ให้ขัดกฎหมาย

มาตรา 44 มีผลแล้วคือการเปิดจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่เป็นไปอย่างคึกคักมีการยื่นจองชื่อพรรคไว้ไม่ต่ำกว่า 50 พรรค

ส่วนพรรคการเมืองเดิมจะเริ่มดำเนินกิจกรรมเพื่อทำตามสิ่งที่พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามเมื่อยังไม่ยกเลิกประกาศ คำสั่งคสช.เดิมที่ห้ามทำกิจกรรม มาตรา 44 ที่ออกมาก็ไม่ได้ช่วยให้ฝ่ายการเมืองเดินเครื่องทำตามกฎหมายได้เต็มที่ เพราะจะขยับทำอะไรทีต้องยื่นขออนุญาตให้คสช.พิจารณาเห็นชอบเป็นกรณีไป

หากยึดตามที่ผู้มีอำนาจเคยพูดไว้ว่าจะปลดล็อกพรรคการเมืองเมื่อพ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ครบหมดแล้ว นั่นหมายความว่าต้องรอไปอีกอย่างน้อย 6 เดือนกว่าที่ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเป็นฉบับสุดท้าย

กว่าพรรคการเมืองจะขยับทำอะไรได้เต็มที่ต้องรอถึงไตรมาสสุดท้ายของปี

หากการเลือกตั้งมีตามกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าจริงก็มีความเสี่ยงสูงที่พรรคการเมืองจะไม่สามารถทำตามเงื่อนไขที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งปัญหาที่จะตามมาคือความไม่พร้อมในการส่งผู้สมัครส.ส.ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่

ถ้าจะให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกำหนดเดิมจริงๆ เป็นไปได้ว่าสุดท้ายคงต้องใช้อำนาจพิเศษมาตรา 44 มาแก้ปัญหาอีกครั้ง

หากไม่อยากให้อำนาจมาตรา 44 ซ้ำซ้อนก็ต้องปลดล็อกพรรคการเมืองเสียแต่วันนี้ ซึ่งดูแล้วเป็นไปได้ยาก

You must be logged in to post a comment Login