- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 22 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
ผู้ดีขับ23ทูตรัสเซียกลับประเทศ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/03/4790e1.jpg)
รัฐบาลอังกฤษประกาศขับคณะทูตรัสเซีย 23 คนออกจากประเทศ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น โดยนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษกล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารเคมีวางยาอดีตสายลับสองหน้าของรัสเซียที่ลี้ภัยในอังกฤษ ซึ่งสหรัฐสนับสนุนอังกฤษ
นายกรัฐมนตรีเมย์ กล่าวโจมตีด้วยความมั่นใจไปที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย พร้อมประกาศจะหามาตรการตอบโต้ในการประชุมสภา ทางด้านรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางยานายเซอร์เก สกรีปาล อดีตสายลับรัสเซีย และยูเลีย บุตรสาว ซึ่งยังอาการสาหัส นับตั้งแต่ที่พบทั้งสองหมดสติอยู่ที่ม้านั่งในเมืองซอลสบรี นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่าอาจใช้มาตรการยึดทรัพย์สินรัสเซียที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ออกกฎใหม่เพื่อลดระดับการติดต่อและการเข้าร่วมของอังกฤษในฟุตบอลโลกที่รัสเซียช่วงฤดูร้อนนี้ กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า รัสเซียจะตอบโต้ทันทีที่อังกฤษมีมาตรการกับรัสเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติยืนกรานปฏิเสธว่ารัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับการวางยาพิษอดีตสายลับและขอให้แสดงหลักฐานพิสูจน์เรื่องดังกล่าว
ขณะที่สหรัฐแถลงว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารพิษทำลายประสาทกับอดีตสายลับรัสเซียที่อยู่ในอังกฤษ และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหามาตรการตอบโต้
นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวในการประชุมฉุกเฉินว่าสหรัฐเชื่อมั่นว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีอดีตสายลับและบุตรสาวในอังกฤษ โดยใช้สารเคมีทำลายประสาทที่ใช้กันในสนามรบ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่เมืองซอลสบรีในอังกฤษ ทำให้นายเซอร์เก สกรีปาลและบุตรสาวมีอาการสาหัส ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐกดดันให้รัสเซียแถลงชี้แจง แต่ไม่ได้กล่าวโจมตีรัสเซียโดยตรงว่าพยายามฆ่าอดีตสายลับคนดังกล่าว ขณะที่เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นแถลงในที่ประชุมยืนกรานว่ารัสเซียไม่เกี่ยวข้อง และว่าเป็นการหาเหตุเพื่อยั่วยุและให้รัสเซียมัวหมองก่อนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกและการเลือกตั้งรัสเซีย
You must be logged in to post a comment Login