- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
‘อาเซียน-ออสซี่’ยึดมั่นเสรีการค้า
นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวร่วมกันในวันนี้ว่า สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนและออสเตรเลีย ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกป้องทางการค้าและยึดมั่นในระบบการค้าเสรี
นายเทิร์นบูล กล่าวในระหว่างการประชุมวาระพิเศษระหว่างออสเตรเลียกับอาเซียนที่นครซิดนีย์ ว่า ประเทศต่างๆจะไม่มีวันแข็งแกร่ง หากใช้วิธีการปิดประตูไม่ต้อนรับตลาดอื่น ๆ นโยบายการปกป้องทางการค้าเป็นทางตัน ไม่ได้เป็นบันไดพาออกจากกับดักการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราที่ต่ำ แต่กลับเป็นการขุดหลุมกับดักให้ยิ่งลึกลงไปมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันต้องหันหน้าสู่โลก มิใช่หันหลังให้และยอมรับในตลาดเสรี ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า เขารู้ดีว่า ขณะนี้โลกอาจจะกำลังหันหน้าไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับแนวทางตลาดเสรี แต่ภายในอาเซียนเองนั้น สมาชิกร่วมมือกันในการเปิดตลาดเสรี ออสเตรเลียกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวาระพิเศษกับอาเซียน โดยออสเตรเลียต้องการสานความสัมพันธ์ทางการเมืองและการค้ากับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ขณะที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียต้องการให้ออสเตรเลียเข้าเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อันเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาต้องการจะเห็นออสเตรเลียเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในด้านการทหาร การค้าและความมั่นคง
คำกล่าวของผู้นำอินโดนีเซียมีขึ้นขณะที่ออสเตรเลียกำลังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดวาระพิเศษกับผู้นำอาเซียนที่นครซิดนีย์ ประธานาธิบดีวิโดโดให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิ่งเฮรัลด์ว่า นับเป็นแนวคิดที่ดี ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอินโดนีเซียออกมาสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว
ปัจจุบัน ออสเตรเลียมีสถานะเป็นประเทศคู่เจรจากับอาเซียนนับตั้งแต่เมื่อปี 2517 สถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลียระบุในรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า ออสเตรเลียควรจะเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนในปี 2567 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของการเป็นประเทศคู่เจรจาและให้ใช้การประชุมสุดยอดที่นครซิดนีย์ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการหารือในประเด็นดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผู้นำกัมพูชาประกาศในระหว่างกล่าวเปิดการประชุมว่าด้วยอนาคตของกัมพูชาปี 2561 ว่า วิสัยทัศน์ของกัมพูชา ก็คือการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงภายในปี 2573 และเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในปี 2593 เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว กัมพูชาจะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาศักยภาพสถาบัน ปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องมือทางเทคนิคให้ทันสมัย และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
You must be logged in to post a comment Login