วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“แม่โขง ”ชี้รถ NGV.ผิด TOR ขสมก.

On March 25, 2018

ภายหลังการประกาศลาออกจากประธานบอร์ด ขสมก.ของนายณัฐชาติ จารุจินดา กลางที่ประชุมบอร์ด ขสมก.เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมาโดยให้เหตุผลการลาออกต่อสื่อมวลชนว่า มีปัญหากับบอร์ด ขสมก.บางคน ที่คัดค้านในทุกเรื่องและยังนำข้อมูลออกไปสู่สาธารณะชนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและถอดใจ นอกจากนี้ในเนื้อหาข่าวยังกล่าวถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมว่า อาจใช้โอกาสนี้เสนอคณะรัฐมนตรีปลดบอร์ด ขสมก.แบบยกชุด จากนั้นจะแต่งตั้งนายณัฐชาติเป็นประธานบอร์ด ขสมก.หวลกลับมาพร้อมกรรมการชุดใหม่ที่ชี้นกเป็นไม้ชี้ไม้เป็นนกได้ดั่งใจก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อบ่ายวานนี้ (25 มี.ค.) นายสุรดิษฐ์ ศรีดามาส กรรมการบริษัท แม่โขงเทคโนโลยี่ จำกัดให้สัมภาษณ์ผ่านเพจดั ง”สืบจากข่าว” โดยมีนายสุวิทย์ บุตรพริ้ง ผู้สื่อข่าวรางวัลพระราชทานเทพทอง โดยนายสุรดิษฐ์เปิดประเด็นว่า การที่นายณัฐชาติลาออกกลางที่ประชุมบอร์ด ขสมก.มองได้เป็น 2 ประเด็น คือ 1.ผลงานการจัดซื้อรถเอ็นจีวี.สำเร็จลุล่วงตามคุณขอมา จึงเปิดก้นหนีเพราะทนกระแสกดดันจากสังคมไม่ไหว กับ 2.ลาออกเพื่อต้องการให้คณะรัฐมนตรีปลดบอร์ด ขสมก.แบบยกชุดแล้วแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ภายใต้การคุมบังเหียนของนายณัฐชาติ กลับมานั่งประธานบอร์ด ขสมก.อีกครั้ง ส่วนเหตุผลการลาออกที่บอกว่ามีปัญหากับบอร์ด ขสมก.บางคน ที่คัดค้านในทุกเรื่อง อีกทั้งยังนำข้อมูลออกไปสู่สาธารณะชนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและถอดใจนั้น ตนว่าคนที่อึดอัดและถอดใจน่าจะเป็นบอร์ดหลายๆคนที่ไม่เห็นด้วยกับการอ้างมติบอร์ดว่า รับรองผลโหวตจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันอันเป็นเท็จและยังดันทุรังโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากบอร์ดเสียงส่วนใหญ่มากกว่า
นายสุดิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมของนายณัฐชาติที่เอาแต่ใจไม่สนใจข้อกฏหมายระเบียบปฎิบัติต่างๆและไม่ฟังเสียงคัดค้านจากบอร์ดเสียงส่วนใหญ่แถมยังเอามาเป็นสาเหตุของการลาออกนั้น มันบ่งบอกถึงการไม่ให้เกียรติบอร์ดที่เห็นต่างจากตัวเอง นายณัฐชาติคงลืมไปว่ากรรมการฯทุกท่านคือผู้ทรงคุณวุฒิผ่านการคัดสรรและแต่งตั้งโดย ครม.ทุกท่านมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมีความรู้ความสามารถไม่ได้ด้อยกว่านายณัฐชาติแม้แต่น้อย การที่ออกมาบอกต่อสื่อมวลชนว่ามีปัญหากับบอร์ดบางท่านนั้น เหมือนการดูถูกศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของผู้ทรงคุณวุฒิถ้าเป็นอย่างนี้ ขสมก.ก็ไม่สมควรมีบอร์ดอีกต่อไป เพราะเหตุแห่งการลาออกของนายณัฐชาติตีความแล้วทำให้คิดได้ว่า กรรมการบางท่านคืออุปสรรคเป็นตัวถ่วงความเจริญของ ขสมก. ดังนั้น ขสมก.ไม่สมควรแต่งตังกรรมการอีกต่อไปปล่อยให้นายณัฐชาติ จารุจินดาและนายสมศักดิ์ ห่มม่วงและนายประยูรช่วยแก้ว รักษาการ ผู้อำนวยการ ขสมก.ก็พอครับ ขสมก.จะได้ปลดหนี้สินแสนล้านได้สำเร็จเสียที
“ถ้าผมเป็นบอร์ด จะจับมือกันออกมาแถลงข่าวเปิดเผยเรื่องเน่าๆภายใน ขสมก.ให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริงจะไม่นอนรอให้มีคำสั่งปลดแบบล้างบาง อย่างน้อยก็เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองและปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดิน ดีกว่าอยู่เงียบๆให้เค้าดูถูกคับ”
นายสุรดิษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี.ล๊อตนี้พบเบื้องตนเจอปัญหาหลายรายการแต่จะยกตัวอย่าง 2-3 ข้อ ตามที่บริษัท ช ทวี ได้แจ้งไว้ว่ารถเมล์ที่จะส่งมอบให้ ขสมก.จะนำเข้าตัวถังรถมาจากจีนและจะนำมาประกอบในไทยบางส่วนเช่น ถังก๊าซ เกียร์และแอร์ คำถามคือ ตาม TOR กำหนดไว้ในข้อ 5.12 “ ผู้เสนอราคาต้องแจ้งว่าใช้โรงงานใดประกอบรถโดยสาร หากเป็นโรงงานต่างประเทศต้องแนบสำเนาหนังสือรับรองมาตราฐาน ISO 9001 หากเป็นโรงงานในประเทศต้องแนบหนังสือรับรองมาตราฐาน ISO 9001 และสำเนาใบอนุญาตของโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเอกสารประกอบ” ทีนี้ตอนที่ยื่นเอกสารเสนอราคาบริษัท ช ทวี ยื่นเอกสารว่าใช้โรงงานประกอบรถในประเทศหรือต่างประเทศกันแน่ โดยเฉพาะในสัญญาได้ระบุโรงงานประกอบและผลิตที่ไหนกันแน่ เพราะว่าตาม Name Piate ที่ติดมากับตัวรถระบุชัดเจนว่า Made in chaina โดยบริษัท Jianxi Kama Business Bus หากสัญญาระบุแค่โรงงานผลิตซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยที่เดียวก็จะผิดสัญญา เหมือนกับเหตุผลที่ ขสมก.บอกยกเลิกสัญญากับบริษัทเบสทริน ซึ่งในสัญญาระบุว่า “ รถผลิตที่ประเทศจีนประกอบที่ประเทศมาเลเซีย” แต่ ขสมก.อ้างว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ต้องถือว่าผิดสัญญา แต่ถ้าหากว่าในสัญญาระหว่าง ขสมก.กับ ช ทวี ระบุเฉพาะโรงงานประกอบที่ประเทศไทย แต่กลับปรากฏชัดเจนว่า Name Piate ระบุว่า Made in chaina ซึ่งจะเข้าข่ายผิดสัญญา ขสมก.ต้องยกเลิกสัญญา ไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติ
นายสุรดิษฐ์ เผยอีกว่า เมื่อพูดถึง ISO 9001 ของโรงงานก็มีอีกข้อใน TOR คือข้อ 2.6 “ภายในห้องโดยสารมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารออกแบบให้โค้งเว้ารับสรีระท่านั่งมีความสวยงาม แข็งแรง และนุ่มสบาย โดยในส่วนของเบาะที่นั่งและพนักพิง บุด้วยฟองน้ำหนาและหุ้มด้วยหนังเทียม ความหนาของเบาะที่นั่งและพนักพิงในตำแหน่งบางสุดไม่น้อยว่า 3 เซนติเมตร บุด้วยฟองน้ำหรือโฟมชนิดหนา มีความหนาแน่นไม่น้อยกว่า 33 บวกลบ 3 กก./ ลบ.เมตร และต้องเป็นวัสดุไม่ลามไฟและไม่ก่อให้เกิดควันพิษเมื่อได้รับความร้อน”  แต่ปรากฏว่ารถโดยสารของ ช ทวี ยี่ห้อ Bonluck เบาะที่นั่งส่วนที่บางสุดวัดได้แค่ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งผิดสเปกตามข้อกำหนดใน TOR ชัดเจน ถ้าหากคณะกรรมการตรวจรับจะตะแบงช่วยเอกชนอาจจะบอกว่า รวมเบาะรวมกรอบและฐานที่นั่งวัดได้ 3 เซนติเมตร คงต้องไปเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตดูจะเห็นความหมายของคำว่าเบาะ “เครื่องรองรับที่มีลักษณะนุ่ม” ซึ่งไม่ได้หมายถึงกรอบและฐานรองที่นั่งด้วยแน่นอน ที่ดักคอไว้ก่อนเพราะได้ยินมาว่า คณะกรรมการเตรียมจะหาช่องช่วยเอกชน ถ้าทำจริงๆผมยืนยันว่า คุก แน่นอนคับ
นายสุรดิษฐ์ เผยต่อไปว่า อีกเรื่องที่ต้องพูดคือ ป้ายจอแสดงเส้นทางที่หน้าและท้ายรถโดยสาร ที่ ช ทวี คุยนักคุยหนาว่ าป้ายหน้ารถใหญ่กว่าที่เคยมีมาและทำออกมาแบบ Over Spac แท้ที่จริงแล้วขนาดก็เท่ากับรถโดยสารยี่ห้อ Sunlong ที่เบสทรินนำเข้ามา แถมสเปกข้อ 9.3.1 ระบุว่า “ป้ายอิเล็กทรอนิกส์บอกหมายเลขเส้นทางและชื่อต้นทาง ปลายทาง ติดตั้งด้านหน้าและด้านหลังรถขนาดกรอบไม่น้อยกว่า 20 คูณ 120 เซนติเมตร แสดงตัวอักษรวิ่งขนาดความสูง 15 เซนติเมตร “ แต่รถของ ช ทวี ป้ายด้านหน้ารถตรงตาม TOR แต่ป้ายหลังรถไม่ตรงสเปกมีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด หากคณะกรรมการจะตรวจรับก็ คุกแน่ๆคับ ตนขอฝากเตือนสติไปยัง นายสมควร นาสนม ประธานกรรมการตรวจรับฯว่า ขอให้ตรวจสอบให้ละเอียดถ้าตรวจแบบลวกๆตรวจแบบรู้กันหรือช่วยเหลือเอกชน บอกไว้ตรงนี้เลยว่า เจอกันในศาล


You must be logged in to post a comment Login