วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

สหรัฐขอจีนลดกำแพงภาษี

On March 28, 2018

ท่ามกลางความหวาดหวั่นจะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ล่าสุดสหรัฐซึ่งขาดดุลการค้าจีนจำนวนมหาศาลขอร้องให้จีนลดภาษีรถยนต์และเพิ่มการนำเข้าเซมิคอนดัคเตอร์จากสหรัฐ เพื่อลดมูลค่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ของสหรัฐ รายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ส่งหนังสือถึงนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีนที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ เรียกร้องให้จีนลดกำแพงภาษีรถยนต์ของสหรัฐ เปิดเสรีภาคการเงินของจีน และให้จีนเพิ่มการนำเข้าเซมิคอนดัคเตอร์จากสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปฏิกิริยาจากจีนในเรื่องนี้ โดยนายหลิวเคยกล่าวก่อนหน้านั้นว่าการที่สหรัฐประกาศตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจีน 1,300 รายการ มูลค่าถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐไม่เคารพกฎการค้าระหว่างประเทศ และจีนจะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองอย่างเต็มที่

ขณะที่นายมนูชินประกาศว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะไม่มีวันยอมถอยในเรื่องนี้ หลังจีนประกาศว่าสินค้าของสหรัฐ 128 รายการ จะต้องเจอกับกำแพงภาษีที่สูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อหมูแช่แข็งที่สหรัฐส่งไปขายจีนจะต้องเจอภาษีที่สูงขึ้น 25% ส่วนถั่วเหลืองที่สหรัฐส่งออกไปจีนมากที่สุด จีนยังไม่ได้ประกาศมาตรการตอบโต้ออกมา ซึ่งคาดว่าภูมิภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ โดยเฉพาะรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการตอบโต้ของจีน

จีนกล่าวโจมตีสหรัฐว่าใช้วิธีการคุกคามทางเศรษฐกิจ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าครั้งใหม่ แต่จีนก็พร้อมจะเจรจาเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้

โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า เป็นการเหมาะสมที่จะกล่าวถึงการประกาศเก็บภาษีสินค้าจากจีนของสหรัฐในครั้งนี้ว่าสหรัฐควรยุติการกระทำที่ถือเป็นการคุกคามทางเศรษฐกิจและการถือตัวว่ามีอำนาจบาตรใหญ่ รัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นและมีความสามารถในการปกป้องผลประโยชน์ที่เป็นธรรมของจีนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและจีนเริ่มการเจรจาต่อรองกันแล้วเพื่อปรับปรุงให้สินค้าสหรัฐเข้าไปจำหน่ายในจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องนี้โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐบนพื้นฐานของความเคารพในผลประโยชน์ร่วมกัน โดยประตูเปิดกว้างเสมอสำหรับการเจรจาและหารือกัน


You must be logged in to post a comment Login