- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
“พัฒนาชาติ” (วิสาหกิจเพื่อสังคม) คิกออฟโปรเจ็กต์ “นางเลิ้ง รันนิ่ง 2018”พร้อมเปิดตัวYenjai
นายเอกชัย ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานโครงการ Community Hive บริษัท พัฒนาชาติ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) เปิดเผยว่า “บริษัท พัฒนาชาติฯเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่แต่ละคนมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ อยากจะทำอะไรเพื่อสังคม ผู้บริหารบางคนเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีบางคนเคยทำงานกับชุมชนอยู่แล้ว แต่ละคนมีทักษะในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป เราจึงนำประสบการณ์ตรงนี้มาประสานความร่วมมือกันและก่อตั้งเป็นบริษัท ซึ่งเหมือนกับ (คอมมูนิตี้ ไฮว์ฟ)Community Hive ที่เป็นศูนย์กลางการทำกิจกรรม ท่องเที่ยวและพักผ่อนของคนเมืองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใจกลางเมือง”
วัตถุประสงค์หลักของบริษัท พัฒนาชาติฯ คือมุ่งเน้นการพัฒนา และส่งเสริมสินค้าและกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนด้วยเทคโนโลยี โดยผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งโปรเจ็กต์ที่ดำเนินการและเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือการพัฒนาสนามม้านางเลิ้งให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนของคนเมืองและเป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพมหานคร โดย บริษัท พัฒนาชาติฯ ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการขับเคลื่อนสังคม ด้วยการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งสนามม้านางเลิ้งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ แต่นั่นไมได้หมายความว่าจะต้องใช้พื้นที่ตรงนี้ตลอด เพราะล่าสุดได้มีการประสานงานกับสนามม้าราชดำริเช่นกันโดยนายเอกชัย กล่าวต่อว่า
“Community Hiveจะไปพัฒนากิจกรรมในพื้นที่ตรงไหนก็ได้ แล้วเมื่อไปพัฒนาพื้นที่ตรงนั้นแล้ว เราได้เห็นสินค้าอะไรที่เป็นของชุมชน เราก็สามารถที่จะนำมาพัฒนาเป็นสินค้าแบรนด์ Yenjai (เย็นใจ)แต่ไม่ว่าจะเป็น Community Hive หรือ เย็นใจ ต่างก็ต้องเดินตามแนวทางของพัฒนาชาติฯ คือมี Development, Relaxation, Social Connection และ Economy ซึ่งทั้ง 4 ข้อนี้จะเป็นตัวที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อน และผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ชุมชน โดยเราสนใจที่จะเข้าไปช่วยบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลางพัฒนาสินค้าให้มีอิมแพ็คกับตลาด ยกตัวอย่างเช่น บริษัทกระดาษ เราสามารถสร้างอิมแพ็คกับการศึกษา หรือสามารถนำกระดาษนั้นเปลี่ยนเป็นสินค้าที่มีมูลค่ามากขึ้นได้”ผู้บริหารรุ่นใหม่กล่าว
สำหรับแบรนด์ Yenjai เป็นการพัฒนาและยกระดับสินค้าชุมชนสู่สินค้าระดับพรีเมียม โดย บริษัท พัฒนาชาติ ฯ ได้เริ่มพัฒนาสินค้าไปแล้วหลายชนิดด้วยกัน อาทิ น้ำผึ้ง ซึ่งมาจากชุมชนเลี้ยงผึ้งที่เชียงใหม่ ที่ทางผู้บริหารย้ำว่าสินค้าของ Yenjai มักมีเรื่องราวทั้งที่ผ่านมา และในอนาคต อย่างตัวน้ำผึ้งเองกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดของจีนและอีกหลายๆ ตลาด สิ่งที่บริษัทฯ ได้ลงมือทำคือการออกแบบแพ็คเกจให้เข้ากับตลาด และเข้าไปช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนนั้นๆ นอกจากนี้ยังมี ผลิตภัณ์ชาต่างๆ อาทิ
ชาเชียว ชาดอกอัญชัญ และชาใบเตย ที่นำมาจากเกษตรกรจริงๆ และมีการลงพื้นที่สำรวจตลอดจนพัฒนาร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งตรงนี้จะทำให้พัฒนาชาติ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) แตกต่างจากบริษัทอื่น
ทั้งนี้ยังมีกิจกรรม “นางเลิ้ง รันนิ่ง 2018” ที่บริษัทพัฒนาชาติ เปิดตัวเพื่อแนะนำตัวกับชุมชน โดยนายยศเทพ เทพหัสดิน ณ อยุธยาCEO บริษัท พัฒนาชาติ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) กล่าวว่า“สำหรับงาน นางเลิ้ง รันนิ่ง 2018จะเป็นงานที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนของการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน ที่นอกเหนือจากการวิ่งเพื่อออกกำลังกาย และการมีกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนอย่างโชว์ม้าวิ่งแข่งเป็นระยะสั้นๆ และการวิ่งแข่งระหว่างนักวิ่งทีมชาติ อย่างคุณสัญชัย นามเขต กับม้าแข่ง รวมถึงการวิ่งมินิมาราธอนแล้ว
ยังมีการออกร้านจากร้านอาหารชุมชนนางเลิ้ง และชุมชนอื่นๆ พร้อมกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุกภายในงาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนช่วยพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชน ตลอดจนการท่องเที่ยวในมิติอื่นๆ ด้วย โดยตั้งเป้าว่า น่าจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 3,000 คนซึ่งได้รับความร่วมมือจากสมาคมราชตฤณมัย สมาคมม้าแข่งไทย มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา และสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย”
ด้าน นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การจะพัฒนาชุมชนหนึ่งๆ ได้นั้น สามารถทำได้ด้วยการสร้าง 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่การสร้างชุมชนให้เข็มแข็ง และการสร้างรากฐานเศรษฐกิจให้มั่นคง ซึ่งการทำให้ชุมชนเข้มแข็ง รูปแบบการทำงานจะมีการพัฒนาผู้นำท้องถิ่นที่ต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างในชุมชนและสามารถนำไปเผยแพร่ประชุมร่วมกับกลุ่มอื่นได้ทันที
“สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นทำขึ้นในชุมชน จะไม่เหมือนสินค้าโรงงาน คือจะไม่มีการลอกเลียนแบบ หรือลอกเลียนแบบได้ยาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่ทำขึ้นจากภูมิปัญญาของแต่ละชุมชนการที่มีบริษัท หรือองค์กรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือให้ชุมชนเกิดการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นทางด้านผลิตภัณฑ์ หรือในส่วนของคุณภาพชีวิต ถือเป็นการเสริมสร้างการพึ่งพาตนเอง ให้คนในท้องถิ่นคิดตัดสินใจเลือกที่จะพัฒนาสินค้าเองอย่างสร้างสรรค์”
บริษัทพัฒนาชาติ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จึงถือเป็นมิติใหม่ของการขับเคลื่อนสังคม ด้วยการพัฒนาส่งเสริมสินค้าและกิจกรรมชุมชน โดยระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
You must be logged in to post a comment Login