นัยการปรับแก้

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 มีนัยแฝงอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นการปรับแก้หลังผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ หากจะรอให้ผลตีความออกมาก่อนอาจส่งผลกระทบหลายด้าน ที่สำคัญเป็นการปรับแก้หลังเปิดยืนยันสมาชิกพรรคการเมืองที่มีความคึกคัก โดยเฉพาะเมื่อนักการเมืองที่เคยเป็นแกนนำม็อบนกหวีดยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกระทบไปถึงสถานะพรรคเกิดใหม่ทั้งที่ยื่นจดทะเบียนแล้วและที่กำลังจะยื่นจดทะเบียนก่อตั้ง ส่วนจะมีผลต่อการเมืองแค่ไหนให้รอดูรายละเอียดของการปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 หากมีเรื่องล้มเลิกให้ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคก็บ่งบอกชัดเจนว่ายังไม่หมดความพยายามตกปลาในบ่อเพื่อน

หลังจากโยนกลองกันไปมาอยู่พักใหญ่ก็ได้บทสรุปแล้วว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เข้าชื่อกัน 27 คน จะเป็นผู้ยื่นตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลังจากที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านการลงมติเห็นชอบจากที่ประชุม สนช. แล้วกลับคืนมายัง สนช. เพื่อให้ยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ

เป็นขั้นตอนที่ทำให้เสียเวลาเปล่า เพราะหากจะยื่นตีความสามารถทำได้ตั้งแต่วันแรกที่ สนช. ลงมติเห็นชอบ แม้จะส่งร่าง พ.ร.ป. ให้นายกฯแล้วก็ยังสามารถยื่นตีความได้ตราบใดที่นายกฯยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ต้องส่งร่าง พ.ร.ป. กันไปมาให้วุ่นวาย

แต่เพื่อบรรเทาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็จะมีการปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ปลดล็อกให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้

เป็นการพิจารณาปรับแก้หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 หลังจากพรรคการเมืองไปยื่นร้องให้ส่งตีความเพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ

จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าการพิจารณาปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 เป็นการชิงปรับแก้ในประเด็นที่มีความเสี่ยงขัดต่อรัฐธรรมนูญก่อนที่ศาลจะพิจารณาเสร็จเพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบหากศาลชี้ว่าออกคำสั่งขัดรัฐธรรมนูญ หรือมีความตั้งใจที่จะปรับแก้อยู่แล้ว

หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้จะเห็นว่าไม่มีวี่แววมาก่อนว่าจะปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560

สิ่งที่น่าพิจารณาคือ หากไม่มีการปรับแก้แล้วศาลตีความออกมาว่าคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญอาจทำให้สถานะของอำนาจมาตรา 44 ที่ใช้ออกคำสั่งครั้งนี้สั่นคลอนได้ เพราะคงจะมีอีกหลายคำสั่งถูกท้าทายด้วยการส่งเรื่องให้ศาลตีความ

ดูตามหน้าเสื่อแล้วการปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ครั้งนี้น่าจะเป็นการผ่อนปรนให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม เช่น เรียกประชุมใหญ่พรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค ประชุมพรรคเพื่อตั้งสาขา หรือเลือกตัวแทนระดับจังหวัดได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตจาก คสช. ก่อน เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆทำกิจกรรมได้คล่องตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการประกาศนโยบายหรือการหาเสียงคงยังไม่ให้เดินสายพูดกันตอนนี้ โดยอาจจะอ้างว่าให้รอผลตีความร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และรอการประกาศใช้อย่างเป็นทางการก่อน

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าโรดแม็พเลือกตั้งต้องถูกเลื่อนออกไปจากเดิมในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน มีแต่คนในกลุ่มอำนาจเท่านั้นที่ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่เลื่อน

“ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อโรดแม็พนั้น ยืนยันว่าไม่กระทบ เพราะมีวิธีบริหารจัดการ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เอาเป็นว่าใครจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ไปเตรียมหาเสียงให้ทันการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าก็แล้วกัน อย่างอื่นคนอื่นจะช่วยจัดการให้ ท่านไม่ต้องจัดการอะไร ถ้ามัวแต่นั่งกังวลสงสัยว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่าเลยยังไม่หาเสียง หรือยังไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เดี๋ยวจะไม่ทันนะ รัฐบาลจะพูดเรื่องโรดแม็พต่อเมื่อ เฮ้ย! ต้องเลื่อนแล้วเว้ย ถ้ายังไม่เลื่อนก็ยังเป็นไปตามโรดแม็พ”

เป็นคำกล่าวล่าสุดของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมือกฎหมายคนสำคัญของรัฐบาลทหาร คสช.

การที่ คสช. ยอมปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ถือว่ามีนัยสำคัญทางการเมืองพอสมควร

ทั้งนี้เพราะเป็นการปรับแก้หลังคำสั่งถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

เป็นการปรับแก้หลังการเปิดยืนยันสมาชิกพรรคการเมืองที่มีความคึกคักยิ่ง โดยเฉพาะนักการเมืองที่เคยเป็นแกนนำม็อบนกหวีดยังภักดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนแปลง จนหัวหน้าพรรคมั่นใจประกาศไล่คนสนับสนุน “บิ๊กตู่” สืบทอดอำนาจให้ไปอยู่พรรคอื่น ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบไปถึงสถานะพรรคเกิดใหม่ทั้งที่ยื่นจดทะเบียนแล้วและที่กำลังจะยื่นจดทะเบียนก่อตั้ง

ส่วนจะมีผลต่อการเมืองแค่ไหนให้รอดูรายละเอียดของการปรับแก้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 หากหนึ่งในนั้นมีเรื่องล้มเลิกให้ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคก็บ่งบอกชัดเจนว่ายังไม่หมดความพยายามตกปลาในบ่อเพื่อน

You must be logged in to post a comment Login