- อย่าไปอินPosted 22 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อำนาจที่แท้จริงและถาวร
คอลัมน์:สันติธรรม “อำนาจที่แท้จริงและถาวร”
โดย บรรจง บินกาซัน (โลกวันนี้วันสุข วันที่ 6-13 เมษายน 2561)
อำนาจเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงอยู่อย่างเป็นระเบียบของสังคมทุกระดับไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต จักรวาลมิได้เกิดขึ้นเองโดยปราศจากผู้สร้างและผู้ควบคุมที่ทรงอำนาจ มิเช่นนั้นแล้วดาวนับแสนล้านดวงคงไม่มีวิถีโคจรอย่างเป็นระบบและมีระเบียบตายตัวจนมนุษย์สามารถนำไปคำนวณได้อย่างแม่นยำ
สังคมมนุษย์ก็เช่นกัน หากปราศจากผู้มีอำนาจควบคุมและไร้กฎหมาย สังคมก็จะไร้ระเบียบ และความเดือดร้อนวุ่นวายจะติดตามมา ดังนั้น ในสังคมทุกระดับจึงจำเป็นต้องมีผู้นำที่มีอำนาจในการควบคุมกฎระเบียบ
ผู้มีอำนาจในยุคสังคมเผ่าคือหัวหน้าเผ่า เมื่อดินแดนขยายกว้างขวางออกไป ผู้มีอำนาจปกครองแผ่นดินคือกษัตริย์หรือไม่ก็จักรพรรดิที่มีอำนาจเด็ดขาดเพียงผู้เดียว ในยุคที่ศาสนาคริสต์รุ่งเรือง พระสันตะปาปาคือผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองคริสตจักร อำนาจทั้งหมดล้วนอยู่ที่ตัวบุคคลผู้เดียวหรือที่เรียกว่าเอกาธิปไตย
เมื่อโลกพัฒนาไป มนุษย์เห็นว่าหากอำนาจอยู่กับบุคคลเพียงผู้เดียวโดยไม่มีใครคานอำนาจ ผู้มีอำนาจอาจใช้อำนาจอย่างขาดสติ ดังนั้น ตรีเอกานุภาพแห่งอำนาจจึงเกิดขึ้น นั่นคือ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ
เนื่องจากอำนาจเป็นที่มาของความมั่งคั่ง หลายคนจึงอยากได้อำนาจ สมัยก่อนการจะได้อำนาจจากผู้มีอำนาจเดิมก็คือต้องโค่นอำนาจผู้มีอำนาจเก่า ซึ่งปัจจุบันนี้ยังใช้กันอยู่ หรืออีกวิธีหนึ่งคือการให้ประชาชนเลือกตั้งไม่โดยตรงก็โดยอ้อมให้ใครบางคนไปเป็นผู้มีอำนาจในการบริหาร ผู้นำในรัฐหรือประเทศยุคใหม่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ประธานาธิบดี
หลายคนคิดว่านายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดีที่ถูกเลือกตั้งมาจากประชาชนเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงและถาวร แต่ในความเป็นจริงมิใช่เช่นนั้น เพราะผู้นำประเทศยุคใหม่ถูกจำกัดเวลาการใช้อำนาจแค่เพียง 4 ปี และอาจครองอำนาจต่อได้อีกหนึ่งสมัย ระหว่างที่มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหารก็ใช่ว่าจะใช้อำนาจได้ตามใจตัวเอง เพราะหลายครั้งผู้มีอำนาจฝ่ายบริหารต้องเป็นผู้ทำตามกลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง แม้จะเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจก็ตาม
กลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลหรือผู้นำประเทศนี้คือกลุ่มทุนธนาคารและกลุ่มทุนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงและเป็นอำนาจถาวรที่ให้การสนับสนุนผู้นำประเทศทุกคน แต่หากผู้นำประเทศไม่สนองความต้องการของกลุ่มทุนดังกล่าว กลุ่มทุนนี้เองจะให้การสนับสนุนการโค่นผู้นำอย่างลับๆ
ในสหรัฐอเมริกากลุ่มทุนธนาคารและกลุ่มทุนอุตสาหกรรมคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง ประธานาธิบดีบางคนของสหรัฐอเมริกาลงนามในกฎหมายทางการเงินหลายฉบับหรือแม้กระทั่งการทำสงครามตามความต้องการของคนกลุ่มนี้ เมื่อประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา ประกาศว่าจะขายน้ำมันโดยรับเงินดอลลาร์สหรัฐแค่ครึ่งหนึ่งของมูลค่า และอีกครึ่งหนึ่งเป็นเงินสกุลอื่น กลุ่มทุนธนาคารในสหรัฐได้สนับสนุนให้ตัวแทนของตนก่อการจลาจลเพื่อโค่นอำนาจเขา ในตะวันออกกลาง นายซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรัก และพันเอกมุอัมมาร์ ก๊อซซาฟี ผู้นำลิเบีย ถูกโค่นอำนาจเพราะคำสั่งจากกลุ่มทุนธนาคารทั้งสิ้น
เหนือไปกว่านั้น อนาคตทางเศรษฐกิจ การจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติของโลก ราคาน้ำมัน การทำสงคราม ความเป็นไปทางการเมืองในประเทศต่างๆล้วนถูกกำหนดโดยกลุ่มอำนาจลับที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลต่างๆของโลกทั้งสิ้น กลุ่มเหล่านี้ได้แก่ กลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์ส สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ ตระกูลร็อธไชลด์ ที่ทำงานเชื่อมโยงกันลับๆภายใต้กลุ่มอิลลูมินาตี
ประชาธิปไตยที่หมายถึงประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจโดยแท้จริงนั้นเป็นแค่เพียงประเพณีที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีอำนาจ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าประชาชนจะเลือกใครหรือพรรคใดไปเป็นผู้บริหารประเทศ กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลต่างหากคือผู้มีอำนาจที่แท้จริงและเป็นอำนาจถาวร
You must be logged in to post a comment Login