- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
สหรัฐจงใจเบรกเศรษฐกิจจีน
นายมาร์ติน ฌาคส์ นักวิชาการอังกฤษ ระบุ เจตนาแท้จริงของสหรัฐ ที่ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนกว่า 1,300 รายการ ก็เพื่อหยุดยั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ไม่ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก แต่กลับทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนร้อนแรงมากขึ้น และยังไม่แน่ชัดว่าสหรัฐจะได้ประโยชน์จากการตั้งกำแพงภาษีกับจีนครั้งนี้หรือไม่
ขณะที่ล่าสุด สำหรับสถานการณ์นี้ จีนประกาศรายการสินค้าสหรัฐ 106 อย่างที่จะถูกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 แล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสหรัฐประกาศรายการสินค้าจีนราว 1,300 อย่างที่จะถูกเรียกเก็บภาษีกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.56 ล้านล้านบาท)
กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงคลังจีนแถลงว่า สินค้าสหรัฐที่จีนจะเรียกเก็บภาษีจะมีมูลค่าการค้าเท่ากับที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากจีน และจะมีผลพร้อมกับมาตรการของสหรัฐ สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐ เช่น ถั่วเหลือง เครื่องบิน รถ วิสกี สารเคมี คำแถลงดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกร่วงกันถ้วนหน้า นอกจากนี้ยังเป็นการประกาศตอบโต้เร็วกว่าที่นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่คาดไว้
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐประกาศรายการสินค้าจีน 1,300 อย่างที่จะเรียกเก็บภาษี หลังจากจีนประกาศเรียกเก็บภาษี 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 93,690 ล้านบาท) กับสินค้า 128 รายการจากสหรัฐ เช่น ผลไม้ ถั่ว เนื้อสุกร และไวน์ มีผลเมื่อวันจันทร์ ตอบโต้ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากหลายประเทศ ซึ่งมีจีนรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ดี สหรัฐเปิดให้ประชาชนแสดงข้อคิดเห็นราว 2 เดือน แหล่งข่าวอุตสาหกรรมสหรัฐเผยว่า น่าแปลกใจที่รายการดังกล่าวยกเว้นสินค้าเทคโนโลยีประเภทอุปโภคบริโภค ทั้งที่เป็นสินค้าส่งออกหลักของจีนมาสหรัฐ กลุ่มธุรกิจสหรัฐส่วนใหญ่สนับสนุนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะหยุดยั้งจีนเรื่องละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แต่มองว่าการเก็บภาษีไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องเพราะจะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนเป็นหลัก และผู้ที่จะต้องแบกรับภาระในที่สุดคือผู้บริโภคชาวอเมริกัน
นายมาร์ติน ฌาคส์ นักวิชาการอังกฤษ ระบุ เจตนาแท้จริงของสหรัฐ ที่ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนกว่า 1,300 รายการ ก็เพื่อหยุดยั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ไม่ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก แต่กลับทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนร้อนแรงมากขึ้น และยังไม่แน่ชัดว่าสหรัฐจะได้ประโยชน์จากการตั้งกำแพงภาษีกับจีนครั้งนี้หรือไม่
You must be logged in to post a comment Login