- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ต้อง‘ลุงกำนัน’
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เสียงยืนยันความจำเป็นที่ต้องตั้งพรรค กปปส. เพื่อสานต่อเจตนารมณ์มวลมหาประชาชน บ่งบอกว่าต้องให้มวยระดับแม่เหล็กลงมาเล่นเองหลังพรรคใหม่ศิษย์ร่วมค่ายทำท่าเป็นมวยไร้ราคา แม้ภารกิจหลักของพรรคใหม่และพรรค กปปส. จะเป็นการอุ้ม “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯ แต่ภารกิจแรกที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนคือ เตะตัดขาพรรคเพื่อไทยไม่ให้มี ส.ส. เกิน 200 เสียง ยิ่งทำให้ลดลงมากเท่าไรยิ่งดี เพราะจะทำให้ภารกิจหลักหลังเลือกตั้งมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น การวางกลยุทธ์ช่วงชิงเสียงเพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากที่สุดจึงเข้มข้นไม่แพ้การช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต
การประกาศตั้งพรรคการเมืองเพื่อสานต่อเจตนารมณ์มวลมหาประชาชนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย
แต่ที่เพิ่งมีความชัดเจนในช่วงนี้เพราะเป็นไฟท์บังคับที่เลี่ยงไม่ได้
เหตุที่เลี่ยงไม่ได้เพราะสถานการณ์ของกลุ่มก้อนที่ต้องการอุ้ม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งกำลังเพลี่ยงพล้ำ ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง
การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเหลือกลุ่มการเมืองแค่ 2 กลุ่ม
ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย
แต่เป็นกลุ่มที่เอา “บิ๊กตู่” กับกลุ่มไม่เอา “บิ๊กตู่”
แม้ในทางปิดจะมีการเจรจากันอยู่บ้างกับกลุ่มการเมืองและพรรคขนาดเล็ก แต่ในทางเปิดเผยพรรคเหล่านั้นต้องแสดงจุดยืนยึดมั่นแนวทางประชาธิปไตย สนับสนุนคนของตัวเองที่มีชื่อในบัญชีผู้สมัครเป็นผู้นำประเทศ
เมื่อต้องแสดงจุดยืนต่อสาธารณะอย่างนั้นก็เท่ากับเป็นการผูกมัดตัวเองที่จะแสดงท่าทีในรัฐสภาในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย
ทำให้โมเมนตัมการเมืองเอียงไปทางเลือกคนจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองเป็นนายกฯมากกว่าจะเลือกคนจากนอกบัญชี
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใหญ่ คนในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเล็กก็มีวาสนาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหากสามารถประสานประโยชน์กับพรรคใหญ่ได้
ประเด็นคือเมื่อทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยต่างประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะสนับสนุนคนในพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นไม่เอาคนนอก ยิ่งทำให้พรรคขนาดเล็กมีพลังต่อรองทางการเมืองมากขึ้น
ประสานประโยชน์กับพรรคหนึ่งไม่ลงตัวก็สามารถหันไปประสานประโยชน์กับอีกพรรคหนึ่งได้
ยิ่งประชาธิปัตย์ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับเพื่อไทยยิ่งทำให้พรรคเล็กเนื้อหอม
จะมีการทำโพลสำรวจจริงหรือไม่ไม่รู้ แต่มีข่าวออกมาตลอดว่ามีการสุ่มสำรวจทั้งจากฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงถึงตัวเลขจำนวน ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้หลังการเลือกตั้ง
ตามข่าวที่ออกมาหลายครั้ง เต็งหนึ่งที่จะชนะเลือกตั้งยังเป็นเพื่อไทย ได้จำนวน ส.ส. ระดับ 200 เสียงขึ้นไป ส่วนประชาธิปัตย์ยังต้องกินน้ำใต้ศอกรับบทพระรองต่อไป
ส่วนพรรคการเมืองที่เปิดหน้าประกาศอุ้ม “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯเป็นเหมือนมวยไร้ราคา บางพรรคอาจไม่ได้ ส.ส. เลย บางพรรคอาจได้ ส.ส. ระดับต่ำ 10
เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ แม้จะมีส.ว. 250 คน รออยู่ในสภาพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจอุ้ม “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯ แต่จะเป็นมิชชั่นอิมพอสซิเบิล ยากกว่าการอุ้มช้างไปอาบน้ำ
จึงร้อนถึงกำนันสุเทพที่ต้องยอมกลืนน้ำลายประกาศตั้งพรรคการเมืองมาสานต่อเจตนารมณ์มวลมหาประชาชน
แม้กำนันสุเทพจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ผันตัวเองไปให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์อยู่ข้างหลัง แต่ถือเป็นมวยมีฝีมือ และเป็นมวยระดับแม่เหล็กมีชื่อ ขึ้นชกเมื่อไรคนแห่เข้าดูวิกแตก
ชื่อชั้นของกำนันสุเทพที่ถูกยกให้เป็นมือประสานสิบทิศจะช่วยทำให้กลุ่มก๊วนทางการเมืองที่ยังลังเลเล่นแง่อยู่ในตอนนี้ตัดสินใจมาร่วมหัวจมท้ายเพื่อร่วมกันทำภารกิจดัน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯได้ง่ายขึ้น
เป็นไปได้ว่าหากมีพรรค กปปส. อาจทำให้ไม่มีพรรครัฐมนตรีที่มีข่าวจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน เพราะต้องระดมทรัพยากรทุกอย่างที่มีมารวมกันไว้ที่เดียวเพื่อความแข็งแกร่ง
ถึงกำนันสุเทพจะเป็นมวยมีชื่อในภาคใต้ และใครก็มองว่าฐานเสียงทับซ้อนกับพรรคประชาธิปัตย์จะไปตัดแต้มกันเอง
แต่เป้าหมายที่แท้จริงอาจไม่ใช่ภาคใต้ หากแต่เป็นพื้นที่อีสาน เหนือ และภาคกลาง เชื่อว่าพรรค กปปส. จะส่งผู้สมัครครบทุกเขต เพราะการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ถึงจะแพ้ในระบบเขตแต่ทุกแต้มมีผลต่อการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
เพื่อไทยอาจกวาด ส.ส.เขตในภาคอีสาน เหนือ แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะมีพรรคอื่นมาชิงส่วนแบ่งไป ทำให้จำนวน ส.ส. โดยรวมอาจไม่เกิน 200 เสียงอย่างที่คาดการณ์ไว้
แม้ภารกิจหลักของพรรคใหม่และพรรค กปปส. จะเป็นการอุ้ม “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯ แต่ภารกิจแรกที่สำคัญไม่แพ้กันที่ต้องทำให้สำเร็จคือ เตะตัดขาพรรคเพื่อไทยไม่ให้มี ส.ส. รวมเกิน 200 เสียง ยิ่งทำให้ลดลงมากเท่าไรยิ่งดี เพราะจะทำให้ภารกิจหลักหลังเลือกตั้งมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้นนั่นเอง
You must be logged in to post a comment Login