- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
‘เพลง’ไม่ช่วย?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
“สู้เพื่อแผ่นดิน” เพลงใหม่ล่าสุดจากฝีมือการประพันธ์เนื้อร้องของ “บิ๊กตู่” ถึงจะมีเนื้อหาแสดงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นแต่ไม่กระทบต่อเป้าหมาย สถานการณ์รัฐบาลในปัจจุบันแม้จะยังมีความมุ่งมั่นแต่ต้องเหนื่อยมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องทุจริตที่เบ่งบานเป็นดอกเห็ด แม้จะยังไม่ปรากฏรายชื่อของรัฐมนตรีในรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ทำให้เสียเครดิตไปมาก เมื่อสิ่งที่เคยเป็นจุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อนที่เปราะบาง ไม่ว่าจะประพันธ์ออกมาอีกกี่เพลงก็ไม่อาจดึงความสนใจของประชาชนให้ละสายตาจากเรื่องทุจริตได้
4 ปี 6 เพลงกับผลงานประพันธ์ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผลงานล่าสุดชื่อ “สู้เพื่อแผ่นดิน” ส่วน 5 เพลงก่อนหน้านี้ประกอบด้วย คืนความสุขให้ประเทศไทย, เพราะเธอคือประเทศไทย, ความหวังความศรัทธา, สะพาน และใจเพชร
เนื้อหาแต่ละเพลงสะท้อนความรู้สึกของผู้ประพันธ์ได้เป็นอย่างดี เช่นบางท่อนของเพลงล่าสุดที่ว่า “เธอจะมองอย่างไร แต่หัวใจฉันยังซื่อตรง ยังมั่นคงไม่มีวันทอดทิ้งเธอ”
แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นแต่ไม่กระทบต่อเป้าหมาย
นอกจากผลงานด้านการประพันธ์เพลงแล้ว ในโอกาสที่จะนั่งทับอำนาจครบ 4 ปี ก็ได้เวลางัดผลงานออกมาอวดประชาชน
แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เสียงสนับสนุนไม่แน่นหนาเหมือนก่อนเก่า การโชว์ผลงานจะชิมลางด้วยการนำข้อมูลกว่า 500 หน้ากระดาษใส่ไว้ในเว็บไซต์ให้ประชาชนที่สนใจเข้าไปอ่าน
ไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงอย่างที่เคยทำมา
ที่เป็นเช่นนี้ “บิ๊กตู่” บอกว่า เป็นสัจธรรมมนุษย์โลก ไม่อยากรู้เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง
ประมาณว่าตั้งโต๊ะแถลงไปก็ไม่เกิดประโยชน์ถ้าคนไม่ฟัง ต่อให้บังคับทีวีทุกช่องถ่ายทอดสด วิทยุทุกช่องถ่ายทอดเสียง คนก็ปิดหนี ซ้ำรอยรายการคืนความสุขให้คนในชาติซึ่งออกอากาศทุกคืนวันศุกร์หลังข่าวภาคค่ำที่เรทติ้งต่ำเตี้ยติดดิน ไม่มีคนให้ความสนใจติดตามเหมือนหลังยึดอำนาจใหม่ๆ
“ความจริงก็อยากแถลง เพราะเหนื่อยแล้ว แถลงแล้วแถลงอีกบางทีก็ยังไม่รู้กันเลย คนเราต้องเข้าใจสัจธรรมของมนุษย์โลก อะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองหรือสลับซับซ้อนก็ไม่ค่อยอยากจะรู้ แต่ก็ไม่ว่ากัน
กำลังพิจารณากันว่าจะแถลงด้วยตัวเองหรือแบบคณะเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ แต่ที่แน่นอนก็คือ จะมีการทำลงเว็บไซต์ เพราะเอกสารมีทั้งหมดถึง 500 กว่าหน้า และรัฐบาลมุ่งหวังที่จะลดเอกสาร ลดการใช้กระดาษลง ดังนั้น จึงจะเอาลงเว็บไซต์ก่อน สงสัยอะไรก็ถามมา กรุณาช่วยอ่านหน่อย โดยเฉพาะสื่อ”
เป็นคำกล่าวของ “บิ๊กตู่” หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา
แม้จะบอกว่ากำลังพิจารณารูปแบบการแถลงผลงาน 4 ปี แต่ดูแล้วไม่น่าจะมีการตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวหรือทำอะไรให้เอิกเกริก เพราะท่านผู้นำเริ่มเข้าใจสัจธรรมของมนุษย์มากขึ้น
อะไรไม่ชอบ ไม่ใช่ ต่อให้พูดชี้แจงอย่างไรระดับความสนใจก็ไม่เพิ่มขึ้น
แม้จะยังมีความมุ่งมั่นที่สะท้อนออกมาในเนื้อเพลง แต่การให้สัมภาษณ์ระยะหลังก็ดูว่าท่านผู้นำเข้าใจสถานการณ์ดีว่าสังคมกำลังรู้สึกอย่างไรทั้งต่อตัวเองและรัฐบาลทหาร คสช. โดยรวม
ยิ่งข่าวการทุจริตออกมามากในช่วงนี้ แม้จะยังไม่ปรากฏรายชื่อของรัฐมนตรีในรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ถือว่าทำให้รัฐบาลเสียเครดิตลงไปมาก เพราะประกาศมาตลอดว่าเข้ามาเพื่อปราบคอร์รัปชัน หยุดการโกงกิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลให้เวลาพูดถึงความเลวร้ายของนักการเมืองจากการเลือกตั้ง หรือพูดถึงการเลือกตั้งให้ประชาชนเลือกคนไม่โกง ขาดน้ำหนักความน่าเชื่อถือ
ปัญหาคอร์รัปชันแม้จะยังไม่ปรากฏตัวละครในคณะรัฐบาลเป็นผู้ร่วมขบวนการกัดกินงบประมาณแผ่นดิน แต่ยิ่งมีเรื่องนี้ปรากฏต่อสาธารณะมากเท่าไรจะยิ่งทำให้รัฐบาลอายุสั้น ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลทหารที่มีความแข็งแกร่งในฐานสนับสนุนจากกองทัพ
ปัญหาคอร์รัปชันไม่เพียงบั่นทอนอายุรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงเป้าหมายใหญ่ในวันข้างหน้าอีกด้วย
ไม่มีความต่าง ก็ไร้จุดขาย
ไม่มีจุดขายใครจะอยากเลือก
การชี้นิ้วใส่นักการเมืองแล้วบอกว่าโกงที่เคยเป็นจุดแข็งกลับกลายเป็นจุดอ่อนที่เปราะบางที่สุดของรัฐบาลในตอนนี้ ไม่ว่าจะประพันธ์ออกมาอีกกี่เพลงก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
You must be logged in to post a comment Login