- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 7 hours ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 1 day ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 2 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 3 days ago
- อย่าไปอินPosted 6 days ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
ศาลปกครองสั่งให้ชดใช้เบสท์ริน กรุ๊ป 1.1 พันล้าน และสั่งหยุดสัญญาการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี
ศาลปกครองชี้ชะตา ขสมก. กรณีออกคำสั่งไม่สุจริต ยกเลิกสัญญารถเมล์เอ็นจีวี ของบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ส่งผลให้ต้องจ่ายค่าเสียหายชดใช้ให้เบสท์รินกรุ๊ป 1.1 พันล้านบาท พร้อมอ่านคำตัดสินคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดการซื้อขายรถเมล์ขสมก.489 คัน 4,000 กว่าล้านบาท ที่ ขสมก.มุบมิบดำเนินการให้ บริษัท ช.ทวี ได้รับการประมูลไป เนื่องจากมติการประชุมไม่ชอบ ส่งผลต่อสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไม่ชอบ ด้านผู้บริหารเบสท์ริน กรุ๊ป ยังยืนยันต้องการให้คน กทม.ได้ใช้บริการรถเมล์คุณภาพดีและราคาไม่แพง
วันที่ 10 เม.ย. 2561 ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ ที่ 502, 955/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 662,663/2561 ระหว่างบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล, บริษัท วิฮีเคิลส์ เอสดีเอ็น บีเอชดี, บริษัทรถยนต์เซินหลง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด และบริษัท เทคโนโลยีพลังงานใหม่เป่ย ฟังกวางโจว (ผู้ฟ้องคดีที่ 1-5) กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก. (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ขอให้ตรวจรับมอบรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี) จำนวน 390 คัน ณ ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ
คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า ขสมก.ผิดสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถเมล์เอ็นจีวี สัญญาเลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2559 กรณีไม่ตรวจสอบรับรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 390 คัน ซึ่งผู้ฟ้องคดีได้ส่งมอบตามสัญญา โดยอ้างว่า สำนักงานอัยการมีความเห็นให้ผู้ถูกฟ้องคดีรอกรมศุลกากรตรวจสอบเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของสินค้าก่อน อันถือเป็นการอ้างเหตุนอกสัญญา โดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น ผู้ฟ้องคดีได้แจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีตรวจรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวตามสัญญาจำนวนหลายครั้ง แต่ผู้ถูกฟ้องคดียังคงเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
โดยศาลพิพากษาให้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องจากการไม่ชำระราคารถยนต์โดยสาร พร้อมดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 2560 จนถึงวันฟ้อง (7 มิ.ย. 2560) รวมเป็นเงิน 1,048,499,346.44 บาท ค่าเสียหายจากการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง จำนวน 12,092,442 บาท ค่าจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสาร จำนวน 98,830,336.35 บาท และค่าเสียหายจากการคืนเงินค้ำประกันล่าช้า เป็นเงินจำนวน 547,427.71 บาท รวมเป็นเงินที่ ขสมก.ต้องชดใช้เป็นจำนวน 1,159,969,552.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,147,831,350.06 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
พร้อมกันนี้ยังให้ ขสมก.ส่งมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) เลขที่ HOB28301B600284 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2559 ให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ หากไม่อาจคืนให้ได้ ให้ชดใช้เงินตามจำนวนตามหนังสือค้ำประกันดังกล่าวให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่
โดยในวันเดียวกันนี้เองศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำตัดสินคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดการซื้อขายรถเมล์ขสมก.489 คัน 4,000 กว่าล้านบาท ที่ ขสมก.มุบมิบดำเนินการให้ บริษัท ช.ทวี ได้รับการประมูลไป เนื่องจากมติการประชุมไม่ชอบ ส่งผลต่อสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไม่ชอบ
โดยนายคณิสสร์ ศรีวัชระประภา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ ได้ต่อสู้ และเรียกร้องความยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ก็ได้รับโอกาสนั้นจากศาลปกครอง อย่างไรก็ดีถึงแม้บริษัทฯ จะได้รับค่าเสียหายดังกล่าว แต่หลักๆ คือ ประชาชนกลับไม่ได้ใช้บริการรถเมล์เอ็นจีวี เพราะความจริงแล้ว บริษัทฯ ไม่ได้ต้องการค่าเสียหาย เป้าประสงค์จริงๆ ของเบสท์รินกรุ๊ป ตั้งแต่ได้ประมูลรถเมล์เอ็นจีวี คือต้องการนำรถที่ดีและราคาถูกมาให้บริการกับพี่น้องชาว กทม. ซึ่งทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่ยื่นอุทธรณ์เรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมใดๆ เพราะไม่ใช่จุดประสงค์ของบริษัทฯ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะมีการหารือกันเพื่อเข้ายื่นหนังสือกับท่านนายกรัฐมนตรี ในกรณีเรื่องการเช่า หรือซื้อรถเมล์เอ็นจีวีของบริษัทฯ เพื่อให้พี่น้องชาว กทม.ได้ใช้ประโยชน์จริงๆ จากการประมูลที่ผ่านมา”
You must be logged in to post a comment Login