- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
ทำไมฝรั่งถือว่าเลข 13 อัปมงคล
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/04/สันติธรรม.png)
คอลัมน์:สันติธรรม “ทำไมฝรั่งถือว่าเลข 13 อัปมงคล”
โดย บรรจง บินกาซัน (โลกวันนี้วันสุข วันที่ 20-27 เมษายน 2561)
ความเชื่อในเรื่องโชคลางเป็นสิ่งที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ในชาติตะวันตกที่เจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แล้วยังมีคนไม่น้อยที่เชื่อในเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคล จนถึงขนาดหลายอาคารและหลายโรงแรมไม่มีเลขบอกชั้นที่ 13
มีหลายคนศึกษาหาเหตุผลว่าทำไมเลข 13 เป็นเลขอัปมงคล และได้ข้อสรุปมาดังนี้
ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ของชาวคริสเตียนถือว่าคนที่ 13 ที่จะมานั่งโต๊ะอาหารคือยูดาสหรือไม่ก็พระเยซู
หลายคนเชื่อว่าอาหารมื้อสุดท้ายหรือการถูกตรึงกางเขนของพระเยซูเกิดขึ้นในวันที่ 13
วินเซนต์ โฟสเตอร์ ฮอปเปอร์ นักประวัติศาสตร์คนหนึ่ง อ้างว่าคนที่พยายามจะทำให้เลข 13 เป็นเลขอัปมงคลคือนักเล่นตัวเลขชื่อ เปรตัส บันกัส ในศตวรรษที่ 16 ฮอปเปอร์ให้เหตุผลข้อหนึ่งว่า บันกัสได้บันทึกไว้ว่าชาวยิวบ่นพึมพำตำหนิพระเจ้า 13 ครั้งในการอพยพออกจากอียิปต์ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ บทสวดสดุดีบทที่ 13 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความชั่วและการทุจริต และการขริบหนังปลายอวัยวะเพศของชาวอิสราเอลมีขึ้นในปีที่ 13
บางคนกล่าวว่าตะแลงแกงที่ใช้ประหารนักโทษในอดีตมีบันได 13 ขั้น ถึงแม้ตะแลงแกงจะมีขนาดต่างกันก็ตาม
บางคนอ้างว่าอัศวินเทมปลาร์เริ่มถูกจับในวันศุกร์ที่ 13 ชาวยุโรปเชื่อกันว่าอัศวินเทมปลาร์เป็นผู้คุ้มครองถ้วยที่พระเยซูดื่มน้ำในอาหารค่ำมื้อสุดท้ายและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ นอกจากนี้แล้วยังทำตัวเป็นธนาคารปล่อยเงินกู้ให้กษัตริย์ยุโรปหลายคน แต่หลังจากกษัตริย์ฟิลิปส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศสแพ้สงครามอังกฤษและเป็นหนี้พวกอัศวินเหล่านี้เป็นจำนวนมาก กษัตริย์จึงสมรู้ร่วมคิดกับโป๊ปคลีเมนต์ที่ 5 ให้จับกุมอัศวินเทมปลาร์ทั้งหมดด้วยข้อหานับถือลัทธิซาตานและข้อหาอาชญากรรมอื่นๆและสังหารหมู่อัศวินเหล่านั้น การปิดล้อมจับกุมอัศวินเทมปลาร์เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 13 เดือนตุลาคม ค.ศ. 1307
บางคนอ้างว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคล เพราะผู้หญิงโดยทั่วไปมีรอบเดือนประมาณ 13 ครั้งต่อปี
บางคนกล่าวว่าแม่มดกลุ่มหนึ่งมีสมาชิกจำนวน 13 คน ถึงแม้ว่าตอนนี้แม่มดถูกถือว่าเป็นผู้ทำเวทมนตร์ไสยศาสตร์กลุ่มใดก็ได้ แต่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อกันว่าแม่มดกลุ่มหนึ่งมีจำนวน 13 คน
มีความเชื่อโบราณอย่างหนึ่งว่า ถ้าใครมีชื่อที่ประกอบด้วยอักษร 13 ตัวอักษร คนผู้นั้นตกเป็นผู้ถูกสาป แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่มีเหตุทำให้เชื่อเช่นนั้น เพราะชื่อและนามสกุลของฆาตกรที่ฉาวโฉ่ในอดีตล้วนประกอบด้วย 13 ตัวอักษร เช่น Charles Manson, Jack the Ripper, Jeffrey Dahmer เป็นต้น แม้แต่ชื่อของฮิตเลอร์ตอนทำศีลจุ่มก็คือ Adolfus Hitler
วันศุกร์ที่ 13 เป็นวันที่แพงสำหรับธุรกิจ นักวิเคราะห์คนหนึ่งอ้างว่าในปีหนึ่งมีการขาดทุนนับเป็นพันล้านดอลลาร์เพราะผู้คนเลือกที่จะไม่ทำธุรกิจใดๆในวันศุกร์ที่ 13
บันทึกคัมภีร์ของชาวโซโรแอสเตอร์ทำนายถึงความปั่นป่วนในทศวรรษที่ 13 ชาวเปอร์เซียโบราณได้แบ่งประวัติศาสตร์ออกเป็นช่วงละ 3,000 ปี ถึงแม้กรอบเวลาอาจแตกต่างกัน แต่นักวิชาการบางคนรู้สึกว่าในตอนเริ่มต้นปีที่ 13,000 จะมีความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อซาตานทำสงครามต่อต้านความดี
ก่อนหน้าสมัยอิสลามชาวอาหรับก็มีความเชื่อในเรื่องโชคลางเหมือนกัน เช่น เมื่อจะออกไปทำธุระสำคัญ ชาวอาหรับจะดูบนท้องฟ้าก่อนว่ามีนกบินด้านไหน ถ้านกบินด้านซ้ายชาวอาหรับถือว่าเป็นลางร้ายและจะไม่ออกไปทำธุระสำคัญ
แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดมาเผยแผ่อิสลามและชาวอาหรับหันมาศรัทธาในพระเจ้าแล้ว ท่านสั่งห้ามมุสลิมเชื่อถือเรื่องโชคลาง และให้ถือว่าเรื่องดีและเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนมาจากพระเจ้า ถ้าพระเจ้าจะให้สิ่งใดเกิดก็ไม่มีใครสามารถยับยั้งได้ และถ้าพระเจ้าจะไม่ให้สิ่งใดเกิดก็ไม่มีใครสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
You must be logged in to post a comment Login