- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 12 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
ใบสั่ง‘ผู้ใหญ่’
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การที่นักการเมืองเริ่มไหลมารวมตัวกันเพื่อก่อตั้ง “พรรคภูมิธรรม” ร่วมกันทำภารกิจต่อวีซ่าอำนาจ แม้จะดูเหมือนว่าสิ่งที่ดึงดูดนักการเมืองคือผลประโยชน์ที่ถูกหยิบยื่นให้ทั้งวันนี้และที่สัญญาว่าจะให้ในวันหน้า แต่ความจริงอีกด้านก็ถูกเปิดเผยออกมาจากปากของ “นายพลถั่งเช่า” ซึ่งเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตัวพร้อมร่วมทำภารกิจนี้ตามความประสงค์ของ “ผู้ใหญ่” ที่ขอให้ช่วยและได้ “รับปาก” ไปแล้ว แม้จะมีบางคนพยายามอธิบายถึงการตกเขียวนักการเมืองว่าเป็นการถอดแบบมาจาก “ทักษิณโมเดล” สมัยทำพรรคไทยรักไทยที่ดึงทุกพรรคเข้าร่วมกับไทยรักไทย แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้กลับทำให้คนนึกถึง “สามัคคีธรรมโมเดล” มากกว่า
การเมืองทางเปิดจะพูดกันอย่างไรก็ว่ากันไป ไม่ว่าตั้งเข้ามาช่วยงาน เข้ามาทำงานเพื่อชาติ ฯลฯ แต่ในทางปิดมีการเคลื่อนไหวคึกคักเพื่อโชว์พลังดูดอดีต ส.ส. ให้มารวมกันเฉพาะกิจทำภารกิจสานฝันต่อท่ออำนาจ
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ชี้ประเด็นให้คิดว่า
“ระยะเวลา 4 ปีที่ครองอำนาจ มันทำให้นึกว่า..พวกข้าคือความถูกต้อง พวกข้าคือศูนย์กลางของประเทศนี้ จะพูดหรือทำอะไรก็ไม่มีใครกล้าทัดทาน หลายครั้งที่พูดจาดูถูกและเย้ยหยันนักการเมือง ชี้หน้าใส่พวกนักการเมืองว่ามันโกง ใส่ร้ายป้ายสีสารพัด
วันนี้..วิ่งหานักการเมือง..แต่งตั้ง..ให้ตำแหน่ง..เพียงเพื่อหวังสืบทอดอำนาจต่อไป ไม่เคยอายคำพูดที่พวกเขากระทำไว้ ยังไม่จบแค่กลุ่มชลบุรี เดี๋ยวมีกลุ่มอื่นตามมาอีก เพราะใช้ทุกวิถีทางในการดูด พี่น้องที่รักประชาธิปไตยจะได้เห็นธาตุแท้ของคนพวกนี้ และจะได้เห็นนักการเมืองแท้อีกเหมือนกัน ดูดไปทุกพรรคการเมืองก็ได้ ตามสบาย อย่างน้อยประเทศนี้ยังเหลือพรรคเพื่อไทย อย่าคิดว่าจะโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทย”
เช่นเดียวกับนายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งประเด็นให้คิดว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เหตุผลในการตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไปคนละทาง นายสมคิดบอกว่าจะให้นายสนธยาช่วยดูงานในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่นายกฯบอกว่าให้มาเป็นที่ปรึกษาด้านการเมืองเพราะไม่ถนัด ไม่รู้ว่านั่งอยู่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเดียวกันหรือไม่ จึงมีคนวิเคราะห์ว่าเป็นการตกเขียวเพื่อมัดจำทางการเมือง โดยใช้ตำแหน่งการเมืองในรัฐบาลหมั้นหมาย
“อยากถามว่าที่ผ่านมานายกฯเคยด่าว่านักการเมืองทุจริต คอร์รัปชัน ชั่ว เลว แล้วทำไมวันนี้ต้องมาใช้วิธีตกเขียวนักการเมืองจากกลุ่มการเมืองเหล่านี้ไปร่วมรัฐบาลเพื่อให้เป็นนั่งร้าน ส่งตัวเองนั่งเก้าอี้สืบทอดอำนาจต่อ”
ไม่เพียงแต่นายสนธยาที่เปิดตัวเป็นทีมลุงตู่ไปแล้ว ล่าสุด “นายพลถั่งเช่า” อย่าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ประกาศตัวพร้อมร่วมเป็นทีมงานอุ้มลุงตู่กลับคืนสู่อำนาจหลังเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่ารับปากกับผู้ใหญ่ไว้แล้วว่าจะช่วย พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องช่วย
คำถามคือวันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์อายุ 80 กว่า เมื่อเรียกคนที่ขอให้ช่วย พล.อ.ประยุทธ์และรับปากไปแล้วว่า “ผู้ใหญ่” แสดงว่าต้องมีอำนาจบารมีและอายุมากกว่า ซึ่งในประเทศนี้มีไม่กี่คน ประชาชนคงจินตนาการกันได้
ยิ่งการตอบคำถามที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปไหวในทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า “ต้องดูท่านไปเรื่อยๆ ให้ไปดูฝีมือท่านสมคิด” ทุกอย่างก็ปรากฏภาพชัดเจน
แม้จะมีบางคนพยายามอธิบายถึงการตกเขียวนักการเมืองว่าเป็นการถอดแบบมาจาก “ทักษิณโมเดล” สมัยทำพรรคไทยรักไทยที่ดึงทุกพรรคเข้าร่วมกับไทยรักไทย แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้กลับทำให้คนนึกถึง “สามัคคีธรรมโมเดล” มากกว่า
พรรคสามัคคีธรรมที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารปี 2534 ดูดนักการเมืองมารวมตัวกันเฉพาะกิจเพื่อดัน “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯหลังเลือกตั้งและทำได้สำเร็จ แต่ “บิ๊กสุ” ก็นั่งทับอำนาจได้ไม่นาน ถูกประชาชนออกมาขับไล่
มาครั้งนี้กำลังจะเกิด “พรรคภูมิธรรม” เดินตามรอย โดยมั่นใจว่าหากทำภารกิจสำเร็จประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย ไม่กลัวประชาชนออกมาขับไล่ เพราะได้แบ่งประชาชนออกเป็นสองฝ่ายชัดเจนแล้ว หากฝ่ายหนึ่งออกมาไล่ก็มีอีกฝ่ายพร้อมสนับสนุนในจำนวนที่มากพอๆกัน
ใครที่คิดว่ารัฐประหารเที่ยวนี้เสียของคงต้องคิดใหม่
หากติดตามการเมืองตั้งแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 จะเห็นว่าคณะรัฐประหารชุดนี้ศึกษาและถอดบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ปิดจุดอ่อนของคณะรัฐประหารรุ่นพี่ได้ทั้งหมด
ช่วงที่ผ่านมาแม้จะถูกต่อต้านบ้างแต่ไม่ทำให้อำนาจสั่นคลอนแม้แต่น้อย ทำให้อยู่มาได้ถึง 4 ปี การจะต่อวีซ่านั่งทับอำนาจแสดงว่ามั่นใจเต็มร้อยว่าไม่มีวันที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแน่นอน ยิ่งเป็นความประสงค์ของผู้ใหญ่อย่างที่นายพลถั่งเช่าว่าเอาไว้ยิ่งทำให้มั่นใจได้ 100%
You must be logged in to post a comment Login