- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 6 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
ลิเก๊ลิเก! / โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
ก่อน “ลิเก” จะเริ่มเล่นก็จะมีการ “ออกแขก” เป็นการคำนับครู อวยพรผู้ชมและขอบคุณเจ้าภาพ พร้อมแนะนำเรื่องที่จะแสดง ผู้แสดง ซึ่งแต่ละคณะก็มีลีลาแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแบ่งการ “ออกแขก” 4 อย่างคือ ออกแขกรดน้ำมนต์ ออกแขกหลังโรง ออกแขกรำเบิกโรง และ ออกแขกอวดตัว
บางครั้ง “ลิเก” จึงถูกนำมาเปรียบเทียบกับการเมืองไทยที่ไม่รู้ว่าใครเป็น “พระเอก” ใครเป็น “ผู้ร้าย” ขณะที่ “ตัวโกง” และ “ตัวตลก” ก็ออกมาเต้นแร้งเต็นกาเต็มโรง
“ลิเก” สนุกเพราะผู้เล่นตีบทแตก ไม่ว่าบทรัก อิจฉาริษยา หรือตลกโปกฮา รำไป ร้องไป เอาดาบสวนกันไปมา แล้วก็จบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง
แต่การเมืองไทยผ่านมาเกือบจะครบศตวรรษ ก็ยังย่ำอยู่กับ “วงจรอุบาทว์” น้ำเน่าเดิมๆ อ้างสารพัดเพื่อลากรถถังมายึดอำนาจ ใช้ชื่อสวยหรูสารพัด แต่สุดท้ายก็เห็นแต่ “สันดอน” โผล่ประจาน
“รัฐประหาร” ทุกครั้งจึงไม่เคยมีใครเชื่อว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองและประชาชนได้ เพราะทุกครั้งจะเห็นแต่คนไม่กี่คนไม่กี่กลุ่มที่มีอำนาจและได้ผลประโยชน์ “รวยกระจุก จนกระจาย” บ้านเมืองจึงมีแต่หายนะล่มจม
สารพัดวาทกรรมที่พูดที่ประกาศ จึงเหมือน “ถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง” ขนาดมี “อำนาจคับแผ่นดิน” มี “ลิ่วล้อ” มากมายเลียแข็งเลียขา ยังกระมิดกระเมี้ยนเป็น “อีแอบ”
เหมือน “ประชาชนโง่ทั้งแผ่นดิน”!!??
You must be logged in to post a comment Login