วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ลิเก๊ลิเก! / โดย นายหัวดี

On April 20, 2018

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

ก่อน “ลิเก” จะเริ่มเล่นก็จะมีการ “ออกแขก” เป็นการคำนับครู อวยพรผู้ชมและขอบคุณเจ้าภาพ พร้อมแนะนำเรื่องที่จะแสดง ผู้แสดง ซึ่งแต่ละคณะก็มีลีลาแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแบ่งการ “ออกแขก” 4 อย่างคือ ออกแขกรดน้ำมนต์ ออกแขกหลังโรง ออกแขกรำเบิกโรง และ ออกแขกอวดตัว

บางครั้ง “ลิเก” จึงถูกนำมาเปรียบเทียบกับการเมืองไทยที่ไม่รู้ว่าใครเป็น “พระเอก” ใครเป็น “ผู้ร้าย”  ขณะที่ “ตัวโกง” และ “ตัวตลก” ก็ออกมาเต้นแร้งเต็นกาเต็มโรง

“ลิเก” สนุกเพราะผู้เล่นตีบทแตก ไม่ว่าบทรัก อิจฉาริษยา หรือตลกโปกฮา รำไป ร้องไป เอาดาบสวนกันไปมา แล้วก็จบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง

แต่การเมืองไทยผ่านมาเกือบจะครบศตวรรษ ก็ยังย่ำอยู่กับ “วงจรอุบาทว์” น้ำเน่าเดิมๆ อ้างสารพัดเพื่อลากรถถังมายึดอำนาจ ใช้ชื่อสวยหรูสารพัด แต่สุดท้ายก็เห็นแต่ “สันดอน” โผล่ประจาน

“รัฐประหาร” ทุกครั้งจึงไม่เคยมีใครเชื่อว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองและประชาชนได้ เพราะทุกครั้งจะเห็นแต่คนไม่กี่คนไม่กี่กลุ่มที่มีอำนาจและได้ผลประโยชน์ “รวยกระจุก จนกระจาย” บ้านเมืองจึงมีแต่หายนะล่มจม

สารพัดวาทกรรมที่พูดที่ประกาศ  จึงเหมือน “ถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง”  ขนาดมี “อำนาจคับแผ่นดิน” มี “ลิ่วล้อ” มากมายเลียแข็งเลียขา ยังกระมิดกระเมี้ยนเป็น “อีแอบ”

เหมือน “ประชาชนโง่ทั้งแผ่นดิน”!!??


You must be logged in to post a comment Login