- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 17 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
สงครามเก้าทัพ! / โดย นายหัวดี
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/04/4815c.jpg)
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
จุดไฟให้ลุกพรึ่บอีกครั้ง เมื่อ “ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา” ซึ่งเป็นอดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เสนอแก้ปัญหา “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ขอเวลา 10 ปีให้ศาลอยู่ก่อนและให้ปรับระบบสภาพสิ่งแวดล้อม 10 ปีแล้วดูว่าสามารถฟื้นฟูให้เป็นสภาพป่าได้หรือไม่
ที่สำคัญคำพูดที่ว่า “ทรัพย์สินของแผ่นดิน” หากใครคิดไปรื้อถอนทำลายมีความผิด ไม่สามารถทำได้ นอกจากออกพระราชบัญญัติ แต่ “ท่านต้องเสี่ยงภัยและต้องรับผิดชอบ ไม่ง่ายเลย”
คำพูดที่ออกมาจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาทันที โดย “เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” นัดชุมนุมใหญ่บริเวณข่วงประตูท่าแพวันที่ 29 เมษายนนี้ เพื่อแสดงจุดยืนถึง “ทั่นผู้นำ” ว่าต้องดำเนินการรื้อบ้านพักตุลาการสถานเดียว
นอกจากนี้ยังจะมีการจัดกิจกรรม “ฉันรักดอยสุเทพ” วันที่ 6 พฤษภาคม โดยมีนิทรรศการดอยสุเทพผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวในแต่ละสมัย หากไม่ได้คำตอบตามที่เรียกร้องก็พร้อมจะยกระดับการเคลื่อนไหวโดยระดมมวลชนในลักษณะ “สงครามเก้าทัพ”
ปัญหาทั้งหมดจึงอยู่ที่การตัดสินใจของ “ทั่นผู้นำ” ที่มีอำนาจ “รัฏฐาธิปัตย์” หากใช้วิธี “ยื้อเวลา” ไปเรื่อยๆ ปัญหาก็จะยิ่งบานปลายและทำลายความศรัทธาทั้งของ “ทั่นผู้นำ” และ “สถาบันตุลาการ”
เพราะปัญหา “หมู่บ้านป่าแหว่ง” จึงไม่ใช่การตีความในแง่ของ “กฎหมาย” แต่เป็นเรื่องของ “จิตสำนึก” ที่สูงกว่า “กฎหมาย”!
You must be logged in to post a comment Login