- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
หัวกระไดไม่แห้ง

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
หมดเขตยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไปแล้ว ทุกพรรคยอดสมาชิกลดลงอย่างน่าใจหาย ไม่ว่าสมาชิกจะมากหรือน้อยโฟกัสไม่ได้อยู่ที่สมาชิกระดับสามัญธรรมดา แต่อยู่ที่รายชื่ออดีต ส.ส. ว่าจะยังยืนยันร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเดิมหรือจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ ระยะเวลาจากนี้ไปก่อนถึงวันหมดเขตตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองกี่วันจึงลงสมัคร ส.ส. ได้ เป็นเวลาทองของอดีต ส.ส. ที่ยังไม่ยืนยันสถานะสมาชิกกับต้นสังกัดเดิมที่จะมีคนแย่งกันยื่นข้อเสนอเพื่อโน้มน้าวใจให้ย้ายไปอยู่ในสังกัดจนหัวกระไดไม่แห้ง
หมดเวลาสำหรับการยืนยันเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในส่วนของพรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่ก่อนรัฐประหารไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา
จากนี้ไปบรรดาอดีต ส.ส. ที่ไม่ได้ยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกกับพรรคการเมืองเดิมมีอิสระเต็มที่ที่จะโยกย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคการเมืองใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหม่หรือพรรคเก่า แต่ต้องรอให้ คสช. ปลดล็อกพรรคการเมืองก่อนจึงจะยื่นใบสมัครได้
การโยกย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมืองที่มีอยู่ตลอดเวลาทั้งยามการเมืองปรกติและไม่ปรกติเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยการย้ายพรรคก็แตกต่างกันไปตามแนวทางการเมืองของแต่ละคน บางคนย้ายเพราะที่ใหม่หยิบยื่นผลประโยชน์ให้มากกว่า บางคนย้ายเพราะไม่ชอบแนวทางการเมืองของสังกัดเดิม เรียกว่าเคมีไม่เข้ากันทนอยู่ต่อไปก็ไม่รุ่งก็ต้องไปหาที่อยู่ใหม่
ความจริงประการหนึ่งทางการเมืองที่ได้เห็นจากการให้ยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรค และต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินบำรุงพรรคคือ จำนวนสมาชิกของพรรคการเมืองทุกพรรคลดลงไปค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ หรือพรรคเล็กอย่างชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ภูมิใจไทย
ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีประชาชนไม่มากที่พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรคการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบ การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองก่อนหน้านี้ส่วนมากเป็นตามคำแนะนำ ตามคำชักชวนของหัวคะแนนนักการเมือง บ้างก็สมัครเพราะถูกขอให้สมัครและเกรงใจคนที่มาขอให้ช่วย
การที่ประชาชนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองน้อยย่อมสวนทางกับความต้องการปฏิรูปพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของมหาชน ไม่ให้คนใดคนหนึ่ง ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเป็นเจ้าของหรือครอบงำพรรคการเมือง สั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามอำเภอใจ
การที่ประชาชนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองน้อยจะยังทำให้ผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองนั้นๆครอบงำพรรคการเมืองได้ต่อไป เพราะคนที่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคล้วนเป็นแนวร่วมที่ให้การสนับสนุนแกนนำพรรคอย่างเต็มที่ ทำให้แกนนำยังสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้อยู่ต่อไป แม้กฎหมายพรรคการเมืองใหม่จะพยายามลดอำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค เพิ่มอำนาจตัดสินใจให้สมาชิกมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จำนวนสมาชิกไม่ใช่เครื่องช่วยยืนยันว่าพรรคไหนจะชนะหรือแพ้เลือกตั้ง
ความจริงความน่าสนใจของสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้อยู่ที่จำนวน แต่อยู่ที่รายชื่อ โดยเฉพาะรายชื่อของอดีต ส.ส. ว่าจะยังยืนยันร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเดิมหรือจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่
เมื่อรายชื่ออดีต ส.ส. มีความสำคัญ ทำให้พรรคการเมืองจะไม่เร่งประกาศรายชื่ออดีต ส.ส. ที่ไม่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคหลังพ้นกำหนดระยะเวลา เนื่องจากไม่ต้องการตัดเยื่อขาดใยกันในตอนนี้ เพราะยังมีเวลาที่จะหว่านล้อมให้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้งหลัง คสช. ปลดล็อกการเมือง
บัญชีรายชื่อที่มีอยู่จึงไม่ใช่บัญชีสุดท้าย ยังไม่ใช่ของจริง เพราะในอดีตที่ผ่านมาขนาดสวมเสื้อชูมือเปิดตัวเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองหนึ่งแล้ว แต่พอถึงวันไปยื่นใบสมัครในนามพรรคการเมืองอื่นก็เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว
ระยะเวลาจากนี้ไปก่อนถึงวันหมดเขตตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองกี่วันจึงลงสมัคร ส.ส. ได้ เป็นเวลาทองของอดีต ส.ส. ที่ยังไม่ยืนยันสถานะสมาชิกกับต้นสังกัดเดิมที่จะมีคนแย่งกันยื่นข้อเสนอเพื่อโน้มน้าวใจให้ย้ายไปอยู่ในสังกัดจนหัวกระไดไม่แห้ง
อดีต ส.ส. ที่ยังไม่ยืนยันสถานะย่อมเลือกเก็บอุดมการณ์ไว้ข้างหลังแล้ว การตัดสินใจจึงน่าจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อเสนอที่ได้รับเป็นหลัก แม้จะเสี่ยงสอบตกอยู่บ้างในกลุ่มอดีต ส.ส. เกรดบี แต่ถ้าได้ข้อเสนอที่ดีก็คุ้มเสี่ยง
You must be logged in to post a comment Login