มรณานุสติจากต้นไม้ใบหญ้า

• Tweet
• 

คอลัมน์:สันติธรรม Wมรณานุสติจากต้นไม้ใบหญ้าW

โดย บรรจง บินกาซัน (โลกวันนี้วันสุข วันที่ 4-11 พฤษภาคม 2561)

สมัยเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ศูนย์การค้าฮอลลีวูดถูกสร้างขึ้นมาตรงสี่แยกราชเทวีเพื่อเป็นแหล่งนัดพบและแหล่งเที่ยวของวัยรุ่นในสมัยนั้น แต่เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาถูกรื้อทิ้งและปล่อยว่างไว้จนมีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นปกคลุมพื้นที่อยู่เป็นเวลานาน

ผมผ่านสี่แยกนี้บ่อยและอดคิดไม่ได้ว่าตลอดระยะเวลา 40 กว่าปีที่ผ่านมา ผืนดินตรงนี้ถูกขุด ถูกเจาะ และถูกปิดทับด้วยพื้นคอนกรีตจนมองไม่เห็นต้นไม้ใบหญ้า ใครเห็นก็คิดว่าต้นไม้ต้นหญ้าคงจะตายหมดแล้ว แต่เมื่ออาคารศูนย์การค้าถูกรื้อทิ้งได้ไม่นาน พื้นที่ตรงนั้นได้มีต้นไม้ใบหญ้างอกขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ไม่มีใครนำไปปลูก

ปรากฏการณ์เกิดใหม่ของต้นไม้ต้นหญ้าเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตที่หายลับไปมิได้สูญสิ้นไปจากโลกนี้ แม้ทุ่งนาที่ชาวนาเผาฟางข้าวทิ้งหลังฤดูเก็บเกี่ยว ใครเห็นก็คิดว่าที่นาจะไม่มีพืชและสัตว์ออกมาในผืนดินอีกแล้ว แต่หลังฝนตก พอดินฉ่ำน้ำชุ่มเราก็จะเห็นต้นไม้ใบหญ้าและพืชพรรณหลากชนิดงอกออกมาจากพื้นดินอีก

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเมล็ดพันธุ์ที่เป็นหน่วยต้นกำเนิดของชีวิตได้ถูกเก็บรักษาไว้ใต้ดินและรอวันที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ลำต้น กิ่งก้าน และใบของมันถูกทำลายไปจะโดยเน่าผุหรือถูกเผา แต่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตพืชยังคงอยู่

สังเกตเห็นปรากฏการณ์ตรงนี้แล้วทำให้ผมนึกถึงคำสอนของนบีมุฮัมมัดตอนหนึ่ง ซึ่งท่านกล่าวว่า “ทุกสิ่งของร่างกายมนุษย์จะสูญสลายหรือผุพังไปยกเว้นกระดูกสันหลังชิ้นสุดท้าย (coccyx) และจากกระดูกนั้นอัลลอฮฺจะสร้างร่างกายของมนุษย์ขึ้นมาใหม่”

นั่นหมายความว่าถ้าร่างกายของมนุษย์เป็นเสมือนต้นไม้ใบหญ้า แม้ร่างกายของมนุษย์จะถูกฝังหรือถูกเผาไป แต่กระดูกสันหลังชิ้นสุดท้ายของมนุษย์ยังถูกเก็บรักษาไว้ เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ของพืชที่ถึงแม้ถูกกลบไว้ใต้ดิน แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เมื่อสภาวะเหมาะสมมันจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

ความเชื่อในเรื่องการฟื้นคืนชีพหลังความตายเป็นความจริงที่มีอยู่ในคำสอนของทุกศาสนา และความเชื่อในเรื่องนี้ถูกเรียกด้วยถ้อยคำที่ต่างกัน เช่น โลกหน้า นรกและสวรรค์ วันพิพากษา วันแห่งการฟื้นคืนชีพ เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ความตายจึงไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิต แต่ความตายเป็นแค่ประตูที่เปิดให้วิญญาณซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงก้าวผ่านจากโลกชั่วคราวใบนี้ไปสู่อีกโลกหนึ่งซึ่งเป็นโลกนิรันดร การตายจึงไม่ต่างอะไรไปจากการเกิด มันแตกต่างกันตรงที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกแห่งครรภ์มารดาแค่ 9 เดือน และเราคลอดออกมาอยู่ในโลกใบนี้เพียงชั่วคราว แต่ความชั่วคราวของแต่ละคนมีเวลาไม่เท่ากัน เมื่อหมดลมหายใจนั่นหมายความว่าวิญญาณของเราได้คลอดจากครรภ์แห่งโลกนี้ไปสู่อีกโลกหนึ่งซึ่งเป็นโลกที่นิรันดร และชะตากรรมของวิญญาณซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงของเราจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราขณะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้

สถานการณ์ของความตายและการฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งถูกจำลองให้เราได้เห็นทุกวันในการนอนของเรา การนอนหลับไม่ต่างอะไรไปจากการตาย การตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากการฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มันเป็นมรณานุสติที่เตือนมนุษย์อยู่ทุกวันว่าวันหนึ่งวิญญาณซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงของมนุษย์ต้องลาจากโลกนี้ไป

ถ้ามนุษย์เห็นสถานการณ์จำลองชีวิตอย่างนี้แล้วยังคิดไม่ได้และคิดว่าตัวเองจะอยู่ค้ำฟ้า เชื่อได้เลยว่าไม่มีมาตรการหรือกฎหมายฉบับใดสามารถคุมมนุษย์ให้เลิกทุจริตคดโกงได้ 

You must be logged in to post a comment Login