- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บรรยากาศพาไป
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ภาพประชาชนเต็มความจุสนามฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อรอรับ “ลุงตู่” บรรยากาศไม่ต่างจากการเชียร์ฟุตบอล เสียงเชียร์ที่เร่งเร้าย่อมทำให้ผู้เล่นเกิดความฮึกเหิม จากนายทหารที่ไปไหนมาไหนก็มีแต่ลูกน้องในเครื่องแบบให้การต้อนรับ มันคนละฟิลกันกับบรรยากาศต้อนรับแบบการเมืองที่มีทั้งเสียงโห่ร้อง เสียงตะโกนให้สู้ๆ และคำพูดหวานๆยกย่องเยินยอ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือแค่แสดงกันไปตามบทที่มีคนกำกับ แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ทำให้คิดไปได้ว่า “แผ่นดินนี้เรียกร้องให้ผมทำให้เขา”
วันนี้รอด วันหน้าอาจถูกสอยร่วง
เป็นคำเตือนล่าสุดถึงพรรคเพื่อไทยที่ปล่อยให้อดีต ส.ส. ของพรรคทั้งที่เป็นแกนนำและไม่ใช่แกนนำแห่บินไปพบ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ถึงประเทศสิงคโปร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
“แกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบนายทักษิณนั้นไม่ผิด เพียงแต่ กกต. ต้องการเตือนให้ระวังความผิดพลาด เช่น มีการพูดคุย บันทึกเทป โพสต์ข้อความ ซึ่งอาจจะมีคนหวังโยงเรื่องดังกล่าวให้เกิดเรื่องขึ้นได้ เพราะหลายเรื่องไม่มีความผิดในวันที่ทำ แต่จะมีความผิดในวันข้างหน้า”
เป็นคำกล่าวของมือกฎหมายรัฐบาลอย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
อย่างที่เคยบอกไว้ ทุกความเคลื่อนไหว ทุกคำพูด ทุกรูปภาพที่โพสต์อวดในสื่อสังคมออนไลน์ ถูกมอนิเตอร์เอาไว้หมดแล้ว วันนี้ยังไม่ใช้ประโยชน์ แต่วันหน้าอาจได้ใช้ประโยชน์หากต้องเดินหมากยุบพรรค
แม้จะมั่นใจว่าหลักฐานเท่าที่มีตอนนี้ยุบพรรคไม่ได้ แต่คนที่ร่วมขบวนแห่ไปมั่นใจได้หรือไม่ว่าเชื่อใจได้หมด ไม่มีการแอบบันทึกเทปสิ่งที่พูดคุยกันหลังไมค์ไว้
เรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีบทเรียนมาแล้วจากการเผยแพร่บทสนทนาทางโทรศัพท์ของอดีตนายกฯกับนายพลถั่งเช่า ทั้งที่เป็นการคุยกันส่วนตัวก็ยังมีคนบันทึกและนำมาเผยแพร่ได้
ทุกการเคลื่อนไหวจึงควรระมัดระวัง เพราะแผนล้าง 3 น้ำมีมาตั้งแต่การปฏิวัติปี 2549
ตัดฉากไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ ภาพประชาชนเต็มความจุสนามฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อรอรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บรรยากาศไม่ต่างจากการเชียร์ฟุตบอล
เสียงเชียร์ที่เร่งเร้าย่อมทำให้ผู้เล่นเกิดความฮึกเหิม ไม่ต่างจาก “ลุงตู่” ที่เกิดความฮึกเหิมตามเสียงเชียร์ ถึงขั้นประกาศว่า “แผ่นดินนี้เรียกร้องให้ผมทำให้เขา”
ไม่ต้องถอดรหัสกันให้วุ่นวาย เพราะเป็นคำพูดที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการเดินบนเส้นทางสายอำนาจต่อไป เพียงแต่ยังต้องรอจังหวะเวลา และเลือกวิธีการเดินที่เหมาะสม
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดบุรีรัมย์ มี 121 โครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดอีสานใต้ถูกส่งให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบในวงเงินงบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท โดยจังหวัดบุรีรัมย์เจ้าภาพของบพัฒนากว่า 10,000 ล้านบาท
แม้ผู้เกี่ยวข้องยืนยันว่าการลงพื้นที่ไม่ได้หวังผลทางการเมือง แต่การไปอนุมัติงบในพื้นที่ที่กำลังตกเป็นข่าวว่าแกนนำของกลุ่มการเมืองจะให้การสนับสนุนให้ “ลุงตู่” กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหลังเลือกตั้งย่อมถูกมองว่าใช้งบประมาณในการหาเสียงล่วงหน้า และใช้งบประมาณตกเขียวนักการเมือง
ไม่ว่าจะถูกมองอย่างไรเชื่อว่าการสัญจรในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมาย เพราะต้องชิงออกวิ่งนำคู่แข่งไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะไขกุญแจปลดล็อกให้คู่แข่งออกวิ่งตามได้
จากนายทหารที่ไปไหนมาไหนก็มีแต่ลูกน้องในเครื่องแบบให้การต้อนรับ มันคนละฟิลกันกับบรรยากาศต้อนรับแบบการเมืองที่มีทั้งเสียงโห่ร้อง เสียงตะโกนให้สู้ๆและคำพูดหวานๆยกย่องเยินยอ
ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือแค่แสดงกันไปตามบทที่มีคนกำกับ แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ทำให้คิดไปได้ว่า “แผ่นดินนี้เรียกร้องให้ผมทำให้เขา”
You must be logged in to post a comment Login