น้ำมันอพอลโล(ไทย)จับมือบช.น.,บก.จร.และส.ชักกะเย่อไทยปลุกกระแส“ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU”

• Tweet
• 

น้ำมันเครื่อง “อิเดมิตสึ” โดยบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องตัวจริงจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ ในโครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU” เพื่อร่วมรณรงค์ให้วินมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคแก่ผู้โดยสาร พร้อมลุยจัดการแข่งขันชักกะเย่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 1,000 คน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท เป็นครั้งแรกของเมืองไทย

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.).เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานว่า ในแต่ละปีทุกประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าตลอดจนทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่ผ่านมาประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนติดอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นเมื่อปลายปีที่แล้ว กองบังคับการตำรวจจราจรได้เริ่มโครงการกรุงเทพมหานคร เมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100% สร้างโรดแมพ เพื่อลดตัวเลขอุบัติเหตุบนท้องถนนมาอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับโครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By lDEMITSU” เกิดจากความร่วมมือของกองบัญชาการตำรวจนตรบาล กองบังคับการตำรวจจราจร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย น้ำมันเครื่อง “อิเดมิตสึ” บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการขับขี่โดยสารรถจักรยานยนต์ให้เกิดความปลอดภัย ด้วยการสวมหมวกกันน็อคทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดจากการประสานความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนที่เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนภารกิจที่จะสร้างกรุงเทพมหานคร ในการเป็นเมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100% โดยใช้วินมอร์เตอร์ไซค์เป็นต้นแบบได้อย่างแน่นอน

ดร.ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทน้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเครื่องหล่อลื่น “อิเดมิตสึ” กล่าวว่า เพื่อรณรงค์สร้างความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเชิญชวนผู้ขับขี่วินอมเตอร์ไซด์ในพื้นที่ 88 สน.ทั่วกรุงเทพฯจำนวน 1,000  คนมาแข่งขันกี่ฬาชักกะเย่อกับนักกีฬาชักกะเย่อทีมชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 แสนบาท โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับแจกหมวกกันน็อค ซึ่งได้จัดเตรียมไว้จำนวน 2,000ใบ ทั้งนี้กีฬาชักกะเย่อต้องใช้ผู้เล่นข้างละ 8 คน รวมแล้วน้ำหนักต้องไม่เกิน 640 กก.และในกติกาสากลผู้แข่งขันทีอยู่คนสุดท้ายปลายเชือกจะต้องสวมหมวกกันน็อค สอดคล้องกับโครงการที่ต้องการให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อค 100 เปอร์เซนต์

ด้านนายดิเรก นันทะเสน ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างวินรถไฟฟ้าฟอร์จูน กล่าวว่า วินรถไฟฟ้าฟอร์จูน มีผู้ขับขี่มอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง จำนวน 52 คน ส่วนใหญ่พบผู้โดยสารให้ความร่วมมือในการสวมหมวกกันน็อค เนื่องจากเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมาก และผู้ขับขี่แต่ละคันก็มีหมวกนักน็อคเพียงพอ ส่วนระยะทางที่สั้นพบว่าผู้โดยสารจะบ่ายเบี่ยงไม่สวมหมวกกันน็อค ทั้งนี้เนื่องจากู้โดยสารกลัวหมวกไม่สะอาด ผ่านการใช้งานมาหลายคน และยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นผู้หญิงที่ทำผมมาใหม่ๆ ไม่อยากใส่หมวกกันน็อค เพราะกลัวว่าทรงผมจะเสียทรง ซึ่งทางวินจะมีเจรจากับผู้โดยสารก่อนว่าถ้าไม่สวมหมวกหากโดนจับผู้โดยสารจะต้องรับผิดชอบค่าปรับ ซึ่งเมื่อชี้แจงไปส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะปฏิบัติตาม

You must be logged in to post a comment Login