- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พื้นที่ยุทธศาสตร์
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เกิดปะทะคารมกันพอหอมปากหอมคอระหว่างนักการเมืองต่างสีเสื้อในจังหวัดบุรีรัมย์หลังการลงพื้นที่ของท่านผู้นำ ทำให้พอจับสัญญาณได้ว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นที่สนามเลือกตั้งบุรีรัมย์ทะลักจุดเดือดแน่นอน เมื่อเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่ฝ่ายหนึ่งต้องการเสียง ส.ส. ไปเป็นนั่งร้านค้ำยันการสืบทอดอำนาจ อีกฝ่ายหนึ่งต้องการเตะตัดขาไม่ให้เป็นไปตามแผน โควตา ส.ส. ที่มากถึง 9 ที่นั่งถึงเป็นเรื่องยากที่จะกวาดได้ทั้งหมด แต่ทั้งสองฝ่ายก็ต้องแย่งชิงมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เกิดดราม่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่พบประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์
ภาพข่าวที่ปรากฏมีคนกว่า 30,000 คนแห่มารอพบนายกฯเต็มสนามฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถูกเปิดเผยเบื้องหลังจากนักการเมืองในพื้นที่ที่อยู่คนละฝั่งกับเจ้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ว่าเป็นการเกณฑ์ประชาชนมาจากทุกหมู่บ้าน
ที่เห็นคนเต็มสนามไม่ได้เดินทางมากันเอง แต่มีคนอำนวยความสะดวกให้
ความจริงเรื่องการเกณฑ์คนมาต้อนรับผู้มีอำนาจมีทุกยุคทุกสมัย ไม่เลือกว่าผู้นำประเทศมาจากการเลือกตั้งหรือมาจากการยึดอำนาจ ซึ่งการเกณฑ์คนมาก็มีหลายวิธีที่นักการเมือง หัวคะแนน ต่างรู้ไส้รู้พุงกันดี และเป็นเรื่องได้ประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายทั้งนักการเมืองและประชาชน
ที่สำคัญอดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทยอย่างนายศุภชัย ใจสมุทร ก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการเกณฑ์คนมาให้การต้อนรับ “บิ๊กตู่” เสียทีเดียว เพียงแต่กล่าวเลี่ยงไปในทำนองว่าคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้เสียมารยาท ไม่ให้เกียรติกัน และอ้างว่าคนบุรีรัมย์เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีอันดี เมื่อคณะรัฐมนตรีมาประชุมกันก็เต็มใจและยินดีมาต้อนรับ การกล่าวหาว่าถูกเกณฑ์มาถือว่าดูถูกคนบุรีรัมย์
ในจังหวัดบุรีรัมย์แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 9 เขต มี ส.ส. ได้ 9 คน การเลือกตั้งเมื่อปี 2554 พรรคภูมิใจไทยกวาด ส.ส. มาได้ถึง 7 ที่นั่ง ที่เหลืออีก 2 ที่นั่งเป็นของพรรคเพื่อไทย ไม่มีที่เหลือให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่เคยมีอดีต ส.ส. ในพื้นที่นี้มาเกือบทุกยุคทุกสมัย
แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ก่อนที่จะถูกสั่งให้เป็นโมฆะและเกิดรัฐประหารตามมา พรรคเพื่อไทยเพิ่มจำนวน ส.ส. ในบุรีรัมย์เป็น 4 คน พรรคภูมิใจไทยเหลือเก้าอี้ ส.ส. แค่ 5 ที่นั่ง
ที่สำคัญคนระดับแกนนำพรรคที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรียังสอบตก
หากย้อนดูการเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดบุรีรัมย์จะเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่มีพรรคการเมืองใดผูกขาดอย่างแท้จริง ผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครมากกว่าชื่อพรรคที่สังกัด
ส.ส. ในจังหวัดบุรีรัมย์จึงล้วนเป็นคนหน้าเดิมที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ เพียงแต่ย้ายสังกัดพรรคไปเรื่อยๆตามแต่เหตุปัจจัยของการเลือกตั้ง แต่อดีต ส.ส. กลุ่มใหญ่ส่วนมากอยู่ในสังกัดตระกูลชิดชอบ ซึ่งการันตีจำนวน ส.ส. ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 คน จึงไม่แปลกที่ท่านผู้นำต้องลงพื้นที่เพื่อทำสัญญาใจ
สนามเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์เป็นสนามหนึ่งที่มีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นดุเดือดทุกครั้ง ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีเรื่องอื้อฉาว ทั้งลอบยิงกัน เรื่องเย็บเงิน 120 บาทติดกับบัตรเลือกตั้ง
ยิ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่ฝ่ายหนึ่งต้องการเสียง ส.ส. เพื่อไปเป็นนั่งร้านค้ำยันการสืบทอดอำนาจ อีกฝ่ายหนึ่งต้องการเตะตัดขาไม่ให้มีเสียง ส.ส. ไปเสริมความแข็งแรงให้นั่งร้าน
การแข่งขันแมตช์ต่อไปในพื้นที่บุรีรัมย์เดือดแน่นอน
You must be logged in to post a comment Login