อินโดฯเข้มรักษาความปลอดภัย

• Tweet
• 

รัฐบาลอินโดนีเซียยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยโบสถ์ทุกแห่งในประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ครั้งที่โบสถ์ในเมืองสุราบายา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ในจำนวนนี้รวมคนร้าย 6 คนซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองสุราบายาว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ลงพื้นที่เมืองสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์ 3 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน รวมคนร้ายด้วย 6 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 40 คน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวิโดโดประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และไม่สมควรนำประเด็นศาสนามาเป็นข้ออ้าง อีกทั้งผู้บงการยังมีจิตใจโหดเหี้ยมด้วยการใช้เด็กเป็นคนก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ผู้นำอินโดนีเซียขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ครั้งนี้มากจนเกินไป แต่เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยโบสถ์ทุกแห่งในประเทศ

ขณะที่ พล.ต.อ.ติโต คานาเวียน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า มือระเบิดมี 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันและเพิ่งเดินทางกลับจากซีเรียได้ไม่นาน นำโดยนายดิตา ฟูตริอันโต หัวหน้ากลุ่มย่อยของขบวนการเจมาอาห์ อันชารัต เดาเลาะห์ (เจเอดี) ประจำเมืองสุราบายา ซึ่งสวามิภักดิ์กับกลุ่มไอเอส และนางปูจี คุสวาตี เป็นสามีภรรยากัน ส่วนบุตรชาย 2 คน อายุ 18 ปี และ 16 ปี และบุตรสาว 2 คน อายุ 12 ปี และ 9 ปี โดยเหตุระเบิดครั้งแรกเป็นฝีมือของบุตรชายทั้งสองคน และเหตุระเบิดอีก 2 ครั้ง เกิดห่างกันครั้งละ 5 นาที

สถานีโทรทัศน์แพร่ภาพผู้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าโบสถ์ก่อนเกิดระเบิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่งคือหญิงที่สวมผ้าคลุมหน้าและมีเด็กอยู่ด้วย ส่วนภาพอื่นๆที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาเป็นกลุ่มควันทึบสีดำลอยขึ้นจากที่เกิดเหตุ และร่างผู้เคราะห์ร้ายที่หน้าประตูโบสถ์ซานตามาเรีย จักรยานยนต์ล้ม และเศษซากหักพัง

You must be logged in to post a comment Login