วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เข้าทางใคร?

On May 22, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะมีความรุนแรงหรือไม่รุนแรง จะไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการถือครองอำนาจ เพราะการชุมนุมโดยกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ไม่มีนักการเมืองสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังไม่ต่างจากเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง มีแต่จะหักจะงอโดยที่ไม่อาจทำให้ไม้ซุงขยับเขยื้อนได้ ผลของการชุมนุมครั้งนี้จะเข้าทางใคร ใครจะฉกฉวยใช้ประโยชน์จากการชุมนุมได้มากกว่ากัน หลังการชุมนุมเสร็จสิ้นก็จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงกับต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางไปเยือนสำนักงานสหภาพยุโรป (อียู) ที่ประเทศเบลเยียมในสัปดาห์นี้ เพื่อรอดูสถานการณ์ในเมืองไทยที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดรวมตัวกันเดินเท้าไปที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (22 พ.ค.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร และทวงการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม การเลื่อนเดินทางไม่ได้เกิดจากความวิตกกังวลกับสถานการณ์โดยตรง หลังจากฝ่ายตำรวจออกมาให้ข่าวว่าจะมีมือที่สามฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์รุนแรงเพื่อให้เป็นเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

แต่เป็นการเลื่อนเดินทางตามคำแนะนำของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้เหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศยังมีปัญหา โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เกรงว่านายกรัฐมนตรีจะถูกตั้งคำถามจากเวทีนานาชาติจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน

เข้าตำราอยู่ในประเทศให้คนไทยตั้งคำถามไม่เป็นไร แต่ไปเมืองนอกคนต่างประเทศตั้งคำถามจะตอบลำบากมากกว่า เพราะทุกคำที่พูดออกไปจะเป็นเงื่อนไขผูกมัดตัวเอง ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือมากกว่าการพูดในประเทศ

การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นน่าจะมีเพียงแกนนำที่เป็นนักศึกษาและภาคประชาชน คงไม่มีนักการเมืองคนไหนไปร่วมเดินขบวนด้วย เพราะคงไม่มีใครกล้าเอาอนาคตตัวเองไปเดิมพัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พ

แต่นักการเมืองพร้อมที่จะโดดเข้าร่วมทันทีหากสถานการณ์แปรเปลี่ยนไปในทางที่จะทำให้ คสช. เพลี่ยงพล้ำ

ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะทำให้ คสช. เพลี่ยงพล้ำได้อย่างไรยังมองไม่เห็นหนทาง

ยิ่งเป็นการสร้างความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดสร้างขึ้นมา หรือมีมือที่สามฉวยโอกาสสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นจริง ยิ่งไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ คสช. เกิดความเพลี่ยงพล้ำได้

อย่างที่ทราบกันว่ากองทัพกับ คสช. มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น เป็นดินเนื้อเดียวที่ผ่านการปั้นมาเป็นอย่างดี เรื่องที่จะแตกแยกเพราะความรุนแรงที่เกิดจากการชุมนุมเลิกคิดไปได้เลย ขนาดยิงกันตายกลางเมืองกว่า 100 ศพ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่การชุมนุมปิดสนามบินของพันธมิตรฯ การชุมนุมปิดกรุงเทพฯของ กปปส. หากไม่มีอำนาจเหนือกว่าหนุนหลังก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจริงน่าจะเข้าทาง คสช. ด้วยซ้ำกับการใช้เป็นข้ออ้างเพื่ออยู่รักษาความสงบในบ้านเมืองต่อไป และอาจใช้เป็นข้ออ้างเลื่อนการจัดเลือกตั้งออกไปได้ เหมือนที่ผู้มีอำนาจพยายามพูดให้ประชาชนคล้อยตามอยู่ตลอดเวลาในทำนองว่าขนาดไม่เลือกตั้งยังวุ่นวาย ถ้าให้มีเลือกตั้งจะขนาดไหนลองคิดดู

สิ่งเดียวที่ผู้ชุมนุมจะได้ในครั้งนี้คือ ได้ใจคนที่คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะมีความรุนแรงหรือไม่รุนแรง จะไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการถือครองอำนาจ

การชุมนุมโดยกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ไม่มีนักการเมืองสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ต่างจากเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง มีแต่จะหักจะงอโดยที่ไม่อาจทำให้ไม้ซุงขยับเขยื้อนได้

ผลของการชุมนุมครั้งนี้จะเข้าทางใคร

ใครจะฉกฉวยใช้ประโยชน์จากการชุมนุมได้มากกว่ากัน หลังการชุมนุมเสร็จสิ้นก็จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น


You must be logged in to post a comment Login