วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อิหร่านไม่รับเงื่อนไขสหรัฐ

On May 23, 2018

รัฐบาลอิหร่านไม่มีทางทำตามคำสั่งสหรัฐหลังรัฐบาลวอชิงตันตั้งเงื่อนไข 12 ข้อ รวมถึงการที่อิหร่านต้องเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองและการทหาร มิฉะนั้นอาจต้องพบการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุด

ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน กล่าวว่า สหรัฐไม่มีสิทธิตัดสินใจแทนคนทั้งโลกรวมถึงอิหร่านว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ทุกประเทศบนโลกล้วนเป็นรัฐเอกราช สามารถดำเนินนโยบายของตัวเองได้อย่างอิสระภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การแสดงท่าทีและการกำหนดข้อเรียกร้องของรัฐบาลวอชิงตันต่ออิหร่านเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จนรัฐบาลเตหะรานและประชาชนไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญอีกต่อไป

ท่าทีดังกล่าวของผู้นำอิหร่านคือการตอบโต้ถ้อยแถลงของนายไมเคิล ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งกำหนดเงื่อนไข 12 ข้อ ให้อิหร่านต้องปฏิบัติตาม มิเช่นนั้นอาจต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่รัฐบาลเตหะรานเคยเผชิญ โดยข้อเรียกร้องนั้นรวมถึงการที่รัฐบาลเตหะรานต้องเปิดทางให้คณะผู้ตรวจสอบนานาชาติเข้าถึงพื้นที่นิคมนิวเคลียร์ทุกแห่งในประเทศอย่างไม่มีเงื่อนไข การยุติกิจกรรมเคลื่อนไหวทั้งการทูตและการทหารในตะวันออกกลางที่รวมถึงการถอนกำลังทหารและนักรบออกจากซีเรีย การเลิกสนับสนุนกลุ่มฮูตีในเยเมน และการยุติการสนับสนุนกลุ่มฮิซโบลเลาะห์ที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล

นอกจากนี้รัฐบาลวอชิงตันยังเรียกร้องอิสรภาพของตัวประกันชาวอเมริกันในอิหร่านทุกคน และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของหน่วยงานด้านการทหารและการเมือง ซึ่งผู้สันทัดกรณีมองไปในทางเดียวกันว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่รัฐบาลเตหะรานจะยอมรับข้อเรียกร้องเหล่านี้ที่เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนของสหรัฐแล้วว่าต้องการโค่นอำนาจอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

ด้านนางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า การที่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านมีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางเลวร้ายมากกว่าเดิม


You must be logged in to post a comment Login