- ปีดับคนดังPosted 10 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
หุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่ในประเทศ
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงสัปดาห์นี้ มีปัจจัยบวกจากสหรัฐ-จีนที่บรรลุข้อตกลงหยุดเก็บภาษีนำเข้าชั่วคราว ทำให้เป็นข่าวเชิงบวกต่อตลาดหุ้นต่างประเทศและช่วงสั้นมีความเสี่ยงน้อยลง ส่วนตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวเช่นกัน แต่กรอบการขึ้นของดัชนียังจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆภายในประเทศ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงยังแนะนำให้ “Wait&See” จนกว่าดัชนีจะกลับมายืนเหนือ 1,780 อีกครั้ง
ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะให้ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ได้แก่ หุ้นที่งบไตรมาส 1/2561 ออกมาดี และช่วงไตรมาส 2/2561 ยังมีโมเมนตัมโตต่อ ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล เช่น BDMS, BCH, RJH กลุ่มค้าปลีก เช่น BJC, MC กลุ่มบันเทิง เช่น RS, MAJOR, JKN กลุ่มอสังหา เช่น AP, SPALI, SC กลุ่มโรงแรม เช่น CENTEL, ERW หุ้นกลุ่มนิคมฯที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC เช่น WHA, AMATA, ROJNA และหุ้นที่นำเข้าคำนวณ MSCI Index ซึ่งคาดว่ามีศักยภาพโตดีและราคาหุ้นยังมี Upside Gain น่าสนใจ โดยจะมีผลบังคับใช้ 31 พฤษภาคมนี้ เช่น LH, THG, DDD, MONO
อย่างไรก็ตาม ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิค โดยให้แนวต้านที่ 1,775 จุด และแนวรับที่ 1,745-1,750 จุด แต่เพื่อความไม่ประมาทหากดัชนีกลับมาปิดต่ำกว่าแนวรับให้ใช้เป็นจุดตัดขาดทุนรอบนี้ สำหรับนักลงทุนระยะกลางแนะนำให้ถือเงินสดต่อ โดยกลุ่มที่คาดว่ายังมีโอกาสปรับตัวบวก ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ เช่น AH , APCS และกลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTG
You must be logged in to post a comment Login