แค่เสมอตัว

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

มีคำพูดที่ใช้อธิบายบทสรุปในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่าเป็นการ “พ่ายแพ้ในสงคราม แต่ชนะเชิงกลยุทธ์” แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าชัยชนะที่ได้มาคุ้มกับที่ต้องสูญเสียไปหรือไม่ แม้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะเป็นเพียงนักศึกษา ประชาชน ไม่เกี่ยวโยงกับนักการเมือง พรรคการเมืองโดยตรง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพลังบริสุทธิ์ แต่เมื่อปลายทางของการเรียกร้องคือการเลือกตั้ง คือการเอาอำนาจออกจากมือทหารไปใส่ในมือนักการเมือง พลังบริสุทธิ์อีกจำนวนมากจึงเลือกส่งเสียงเชียร์อยู่ในที่ตั้ง ไม่ออกมาร่วมเดินบนท้องถนน เมื่อขยายมวลชนไม่ได้ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ จึงน่าจะได้เพียงแค่ “เสมอตัว” ไม่ใช่ชนะอย่างที่พูดกัน

“พ่ายแพ้ในสงคราม แต่ชนะเชิงกลยุทธ์”

นี่คือคำจำกัดความที่หลายฝ่ายพยายามใช้อธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่จบลงด้วยแกนนำถูกควบคุมตัว ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอย่างน้อย 3 ข้อหา

คำว่าแพ้ในสงครามทุกคนเข้าใจได้เมื่อการชุมนุมจบลงด้วยแกนนำถูกจับกุมดำเนินคดี

แต่ชนะเชิงกลยุทธ์ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าชัยชนะที่ได้มาได้คุ้มเสียหรือไม่

แม้จะมีสื่อต่างประเทศรายงานเหตุการณ์การชุมนุมและการจับกุม ทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลทหาร คสช.

แม้จะมีองค์กรต่างชาติออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมทันที

แม้จะมีความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลดุเดือดคึกคักมากขึ้น

แม้จะมีนักการเมือง พรรคการเมือง บางส่วนออกมาประณามการใช้อำนาจรัฐ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ โดยพยายามชี้ว่าการเรียกร้องการเลือกตั้งไม่ใช่อาชญากรรม การเรียกร้องประชาธิปไตยไม่ใช่ความผิด

แต่ทุกการเคลื่อนไหวที่กล่าวมาก็เป็นการเคลื่อนไหวเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทุกครั้งกับทุกการชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา

ถามว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา รวมถึงการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ นอกจากชัยชนะเชิงกลยุทธ์ที่ว่าแล้วได้อะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือไม่

ขยายมวลชนให้มีแนวความคิดรักหลักการประชาธิปไตย เคารพหลักการสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน ฯลฯ ได้หรือไม่

ถ้าตอบว่าได้ ต้องถามต่อว่าได้มาเท่าไร ได้ถาวรหรือได้มาเพียงชั่วคราว

การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีความจริงประการหนึ่งที่ควรยอมรับคือ แม้จะมีคนอยากให้มีการเลือกตั้งจำนวนมาก แต่คนที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกลับไม่มาก

ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวอยู่ในที่ตั้ง เคลื่อนไหวกันในโลกโซเชียล

ทั้งนี้เพราะส่วนมากเบื่อแล้วกับการตีงูให้กากิน เมื่อเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ใครจะอยากเอากระดูกมาแขวนคอ

ที่ผ่านมามวลชนได้บทเรียนแล้วว่าการดูเขารวยช่วยเขาวิ่งนั้นไม่เกิดประโยชน์ เพราะเมื่อฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุนได้รับอำนาจแล้วก็ไม่ได้ทำสิ่งใดจริงจังตามที่พูดไว้กับประชาชน ไม่ได้ทำอะไรจริงจังตามที่ยกขึ้นมาเป็นประเด็นเรียกร้องให้มีการเคลื่อนไหว

แม้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะเป็นเพียงนักศึกษา ประชาชน ไม่เกี่ยวโยงกับนักการเมือง พรรคการเมืองโดยตรง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพลังบริสุทธิ์

แต่เมื่อปลายทางของการเรียกร้องคือการเลือกตั้ง คือการเอาอำนาจออกจากมือทหารไปใส่ในมือนักการเมือง พลังบริสุทธิ์อีกจำนวนมากจึงเลือกส่งเสียงเชียร์อยู่ในที่ตั้ง ไม่ออกมาร่วมเดินบนท้องถนนอย่างที่เห็น

บทสรุปในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจึงไม่น่าจะใช่ชัยชนะในเชิงกลยุทธ์อย่างที่ว่ากัน

แต่น่าจะได้เพียงแค่ “เสมอตัว” ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียสละ แต่ผลที่ได้กับสิ่งที่เสียไป “คุ้ม” กันหรือไม่ แกนนำต้องไปบวกลบคูณหารเอาเอง

You must be logged in to post a comment Login