- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 17 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
เดิมพันอนาคต
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/06/4849-ONLINE1.jpg)
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ปี่กลองเลือกตั้งที่เชิดรัวกำลังเร่งเร้าให้เกิดแรงกดดันในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อผู้เล่นสำรองในสนามภาคใต้ร้องขอความชัดเจนในการวางตัวผู้สมัคร หากไม่ได้เป็นตัวจริงจะได้ย้ายสังกัดไปหาโอกาสแจ้งเกิดกับพรรคใหม่ของ “กำนันสุเทพ” ที่มีฐานคะแนนพอที่จะช่วยดันให้ลุ้นชนะเลือกตั้งได้ เช่นเดียวกับโอกาสแผ่รากฝังลึกเพื่อเป็นพรรคการเมืองถาวรไม่ใช่เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ถ้าโค่นไม่ลงพรรคประชาธิปัตย์จะยึดครองพื้นที่ภาคใต้ไปอีกยาวนาน
การเลือกตั้งที่ภาพเริ่มชัดเจนว่ามีขึ้นแน่แม้ยังไม่ล็อกวันแน่นอน แต่เมื่อปี่กลองเริ่มเชิดรัว พรรคการเมืองก็ต้องเร่งเตรียมความพร้อมที่จะลงสนามแข่งขัน
การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น สนามที่น่าสนใจที่สุดหนีไม่พ้นสนามการเมืองในภาคใต้ เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำม็อบ กปปส. ตั้งพรรคการเมืองลงเล่นตามกติกา
เป็นที่ทราบกันว่าพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ยึดครองแบบเบ็ดเสร็จของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ถึงขนาดมีคนพูดว่าส่งเสาไฟฟ้าลงแข่งก็ชนะได้สบายๆ ไม่มีอะไรต้องลุ้น
แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้านั้น สถานการณ์จะแตกต่างออกไป
จริงอยู่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายครั้งหลายหน คือสถานการณ์ที่มีพรรคการเมืองเกิดใหม่มาแย่งฐานเสียง
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม
ที่ไม่เหมือนเดิมเพราะคู่แข่งหมายเลขหนึ่งในการเลือกตั้งคือพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ
แม้ในอดีตจะมีคนระดับแกนนำพรรคที่ได้รับความนิยมสูงแยกตัวออกจากพรรคมาเป็นคู่แข่ง อย่างกรณีกลุ่ม 10 มกรา ที่นำโดยนายวีระ หรือวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็แข็งแกร่งพอที่จะชนะและยึดครองพื้นที่อย่างต่อเนื่องได้
แต่คู่แข่งอย่างนายสุเทพต่างจากนายวีระ
แน่นอนว่าการสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครยังทำให้ได้เปรียบคู่แข่งเมื่อเทียบกับผู้สมัครพรรคอื่น แต่กับผู้สมัครจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยถึงจะเหลื่อมอยู่บ้างแต่คงไม่มาก
เพราะคู่แข่งจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่ใช่คู่แข่งโนเนมที่ไม่มีบารมีในพื้นที่ แต่จะเป็นตัวสำรองที่อยากลงเล่น เพราะเบื่อนั่งรอโอกาสข้างสนามจากพรรคประชาธิปัตย์เอง
ขณะนี้แม้จะยังไม่มีการแบ่งเขตเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเป็นทางการ และยังไม่สามารถทำไพรมารีโหวตเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส. ได้ แต่เริ่มมีการเรียกร้องขอความชัดเจนจากผู้บริหารในพรรคประชาธิปัตย์ว่าแต่ละเขตเลือกตั้งจะวางใครเป็นผู้สมัคร เพราะสามารถคาดเดาพื้นที่เขตเลือกตั้งได้ ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมก็คงไม่มาก ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวตไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นเพียงพิธีกรรมที่สามารถล็อกผลโหวตได้
ที่เป็นอย่างนี้เพราะหากไม่ได้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในการลงสมัครจะได้ขยับขยายย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทยของนายสุเทพ
สถานการณ์แบบนี้ไม่ต่างจากผู้เล่นตัวสำรองแถว 2 แถว 3 ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่ต้องการออกจากร่มเงาตัวจริงไปสร้างเงาของตัวเองกับพรรคการเมืองอื่น
ต่างกันตรงที่พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่จะย้ายไปสังกัดไม่มีแกนนำระดับแม่เหล็กที่มีแม่ยกคอยตามเชียร์เป็นจำนวนมากเหมือนกับนายสุเทพในสนามภาคใต้
สนามการเมืองภาคใต้จึงเป็นโอกาสของตัวสำรองที่จะแจ้งเกิด
เช่นเดียวกับโอกาสแผ่รากฝังลึกเพื่อเป็นพรรคการเมืองถาวร ไม่ใช่เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ถ้าโค่นไม่ลงพรรคประชาธิปัตย์จะยึดครองพื้นที่ภาคใต้ไปอีกยาวนาน
สถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์เป็นเช่นไรดูได้จากข่าวที่จะเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย เป็น 1 ใน 3 รายชื่ออยู่ในบัญชีที่จะโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ถ้าถึงขนาดต้องพึ่งบารมีนายชวนเพื่อตรึงคะแนนเสียง
ถ้าเป็นภาษาปักษ์ใต้ต้องบอกว่าสนามเลือกตั้งภาคใต้พรุ่งคลักๆ (เดือด) แน่นอน
You must be logged in to post a comment Login