วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เดิมพันอนาคต

On June 10, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ปี่กลองเลือกตั้งที่เชิดรัวกำลังเร่งเร้าให้เกิดแรงกดดันในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อผู้เล่นสำรองในสนามภาคใต้ร้องขอความชัดเจนในการวางตัวผู้สมัคร หากไม่ได้เป็นตัวจริงจะได้ย้ายสังกัดไปหาโอกาสแจ้งเกิดกับพรรคใหม่ของ “กำนันสุเทพ” ที่มีฐานคะแนนพอที่จะช่วยดันให้ลุ้นชนะเลือกตั้งได้ เช่นเดียวกับโอกาสแผ่รากฝังลึกเพื่อเป็นพรรคการเมืองถาวรไม่ใช่เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ถ้าโค่นไม่ลงพรรคประชาธิปัตย์จะยึดครองพื้นที่ภาคใต้ไปอีกยาวนาน

การเลือกตั้งที่ภาพเริ่มชัดเจนว่ามีขึ้นแน่แม้ยังไม่ล็อกวันแน่นอน แต่เมื่อปี่กลองเริ่มเชิดรัว พรรคการเมืองก็ต้องเร่งเตรียมความพร้อมที่จะลงสนามแข่งขัน

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น สนามที่น่าสนใจที่สุดหนีไม่พ้นสนามการเมืองในภาคใต้ เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำม็อบ กปปส. ตั้งพรรคการเมืองลงเล่นตามกติกา

เป็นที่ทราบกันว่าพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ยึดครองแบบเบ็ดเสร็จของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ถึงขนาดมีคนพูดว่าส่งเสาไฟฟ้าลงแข่งก็ชนะได้สบายๆ ไม่มีอะไรต้องลุ้น

แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้านั้น สถานการณ์จะแตกต่างออกไป

จริงอยู่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายครั้งหลายหน คือสถานการณ์ที่มีพรรคการเมืองเกิดใหม่มาแย่งฐานเสียง

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม

ที่ไม่เหมือนเดิมเพราะคู่แข่งหมายเลขหนึ่งในการเลือกตั้งคือพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ

แม้ในอดีตจะมีคนระดับแกนนำพรรคที่ได้รับความนิยมสูงแยกตัวออกจากพรรคมาเป็นคู่แข่ง อย่างกรณีกลุ่ม 10 มกรา ที่นำโดยนายวีระ หรือวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็แข็งแกร่งพอที่จะชนะและยึดครองพื้นที่อย่างต่อเนื่องได้

แต่คู่แข่งอย่างนายสุเทพต่างจากนายวีระ

แน่นอนว่าการสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครยังทำให้ได้เปรียบคู่แข่งเมื่อเทียบกับผู้สมัครพรรคอื่น แต่กับผู้สมัครจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยถึงจะเหลื่อมอยู่บ้างแต่คงไม่มาก

เพราะคู่แข่งจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่ใช่คู่แข่งโนเนมที่ไม่มีบารมีในพื้นที่ แต่จะเป็นตัวสำรองที่อยากลงเล่น เพราะเบื่อนั่งรอโอกาสข้างสนามจากพรรคประชาธิปัตย์เอง

ขณะนี้แม้จะยังไม่มีการแบ่งเขตเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเป็นทางการ และยังไม่สามารถทำไพรมารีโหวตเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส. ได้ แต่เริ่มมีการเรียกร้องขอความชัดเจนจากผู้บริหารในพรรคประชาธิปัตย์ว่าแต่ละเขตเลือกตั้งจะวางใครเป็นผู้สมัคร เพราะสามารถคาดเดาพื้นที่เขตเลือกตั้งได้ ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมก็คงไม่มาก ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวตไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นเพียงพิธีกรรมที่สามารถล็อกผลโหวตได้

ที่เป็นอย่างนี้เพราะหากไม่ได้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในการลงสมัครจะได้ขยับขยายย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทยของนายสุเทพ

สถานการณ์แบบนี้ไม่ต่างจากผู้เล่นตัวสำรองแถว 2 แถว 3 ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่ต้องการออกจากร่มเงาตัวจริงไปสร้างเงาของตัวเองกับพรรคการเมืองอื่น

ต่างกันตรงที่พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่จะย้ายไปสังกัดไม่มีแกนนำระดับแม่เหล็กที่มีแม่ยกคอยตามเชียร์เป็นจำนวนมากเหมือนกับนายสุเทพในสนามภาคใต้

สนามการเมืองภาคใต้จึงเป็นโอกาสของตัวสำรองที่จะแจ้งเกิด

เช่นเดียวกับโอกาสแผ่รากฝังลึกเพื่อเป็นพรรคการเมืองถาวร ไม่ใช่เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ถ้าโค่นไม่ลงพรรคประชาธิปัตย์จะยึดครองพื้นที่ภาคใต้ไปอีกยาวนาน

สถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์เป็นเช่นไรดูได้จากข่าวที่จะเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย เป็น 1 ใน 3 รายชื่ออยู่ในบัญชีที่จะโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ถ้าถึงขนาดต้องพึ่งบารมีนายชวนเพื่อตรึงคะแนนเสียง

ถ้าเป็นภาษาปักษ์ใต้ต้องบอกว่าสนามเลือกตั้งภาคใต้พรุ่งคลักๆ (เดือด) แน่นอน


You must be logged in to post a comment Login