- อย่าไปอินPosted 19 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อยู่ที่คนถือธง
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
หลังจากนิ่งดูสถานการณ์อยู่นาน “ทักษิณ” เริ่มเคลื่อนไหวส่งสัญญาณเพื่อปลอบขวัญคนที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อมั่นว่าคนที่ออกจากพรรคไปตามแรงดูดจะไม่ส่งผลใดๆต่อคะแนนเสียงหลังการเลือกตั้ง เมื่อส่งสัญญาณออกมาอย่างนี้น่าจะทำให้สถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทยที่กำลังระส่ำระสายนิ่งลงในระดับหนึ่ง ชนวนระเบิดจึงเหลืออยู่อันเดียวคือ การตัดสินใจเลือกแม่ทัพถือธงนำพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้ง เลือกถูกคนเป็นที่ยอมรับพรรคก็เป็นปึกแผ่น เลือกผิดคนก็อาจทำให้พรรคแตกก่อนทำศึกใหญ่ได้
เรียบร้อยโรงเรียน คสช. ไปตามคาด กรณีศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะ ในข้อหากบฏ
เหตุผลหลักที่ใช้อธิบายคำตัดสินครั้งนี้คือ รัฐธรรมนูญชั่วคราวแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2557 ได้นิรโทษกรรมเอาไว้แล้ว แม้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ชอบ แต่ต้องตีความกฎหมายให้เกิดผลบังคับใช้ได้ ให้คงอยู่เป็นรัฐ มิฉะนั้นบ้านเมืองจะเสียหาย การยึดอำนาจในขณะนั้น คสช. ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ แม้ว่าการได้มาซึ่งอำนาจจะไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ก็เป็นกรณีว่ากล่าวกันในด้านอื่น คสช. มีอำนาจในเชิงข้อเท็จจริง ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจึงมีสภาพเป็นกฎหมายตามที่มาตรา 48 ได้บัญญัติไว้ และต่อมารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 279 ก็ได้รับรอง การกระทำของจำเลยทั้งห้าจึงพ้นผิดโดยสิ้นเชิง
ตัดฉากกลับมาที่การประชุมร่วมระหว่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับตัวแทนพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายนนี้ ล่าสุดมีพรรคการเมืองตอบรับคำเชิญร่วมวงสนทนาแล้วกว่า 30 พรรค จากที่ได้รับหนังสือเชิญประมาณ 80 พรรค เชื่อว่าเมื่อถึงวันจริงคงมีไม่น้อยกว่า 50 พรรค
อย่างไรก็ตาม จำนวนพรรคการเมืองที่เข้าร่วมประชุมไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญอยู่ที่เนื้อหาและข้อสรุปที่จะได้จากที่ประชุมว่าจะมีความคืบหน้าใดๆเกี่ยวกับการให้อิสระพรรคการเมืองเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต้นปีหน้าหรือไม่
ส่วนกระแสการดูดอดีต ส.ส. แม้จะเงียบลงไปบ้าง แต่ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวจากอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งสัญญาณถึงอดีต ส.ส. ที่เดินออกจากพรรคเพื่อไทยชัดเจน 2 กรณี
กรณีแรก ดร.ทักษิณมองว่าอดีต ส.ส. ที่ออกไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นเป็นพวกอนาคตทางการเมืองไม่แน่นอน เมื่อรู้ว่าไม่มีความแน่นอนจึงเลือกผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่จับต้องได้เอาไว้ก่อน
ดร.ทักษิณให้คำจำกัดความอดีต ส.ส. เหล่านี้ว่าเป็นพวกสะสมทุนก่อนเกษียณ
กรณีที่สอง ดร.ทักษิณมองว่าการตบเท้าออกจากพรรคเพื่อไทยของอดีต ส.ส. จำนวนหนึ่งนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานคะแนนของพรรค เชื่อว่าหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะยังเข้าป้ายมาเป็นที่หนึ่ง เพราะบรรดาอดีต ส.ส. ที่ออกจากพรรค ฐานคะแนนส่วนตัวสู้ฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ มั่นใจว่าเมื่อเข้าคูหาประชาชนจะมองหาผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยก่อนกาบัตรลงคะแนน
นอกจากนี้ดูเหมือนว่า ดร.ทักษิณยังพอใจกับสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ เพราะเป็นการช่วยคัดเลือดแท้ให้เหลืออยู่กับพรรค ไม่มีพวกเห็บเหากาฝากหลงเหลืออยู่อีกต่อไป และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่อดีต ส.ส. ถูกดูดไปนั้นยังมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะเข้ามาทำงานร่วมกับพรรค
เมื่อ ดร.ทักษิณส่งสัญญาณออกมาอย่างนี้น่าจะทำให้สถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทยที่กำลังระส่ำระสายนิ่งลงในระดับหนึ่ง
ชนวนระเบิดในพรรคเพื่อไทยตอนนี้จึงเหลืออยู่อันเดียวคือ การตัดสินใจเลือกแม่ทัพถือธงนำพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้ง
เลือกถูกคนเป็นที่ยอมรับพรรคก็เป็นปึกแผ่น เลือกผิดคนก็อาจทำให้พรรคแตกก่อนทำศึกใหญ่ได้
You must be logged in to post a comment Login